บอร์ดกฟผ.ลงพื้นที่พบผู้นำชุมชนเทพา ย้ำท้องถิ่นต้องพัฒนาควบคู่โรงไฟฟ้า
คณะกรรมการ กฟผ. ผู้ว่าการและคณะผู้บริหาร กฟผ. ลงพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าเทพา อ.เทพา จ.สงขลา ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำชุมชน โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยืนยันทั้งโรงไฟฟ้าและท้องถิ่นจะต้องพัฒนาควบคู่กันไป พอใจผลการดำเนินงานผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. รองรับในช่วงการหยุดผลิตก๊าซ JDA-A18 เป็นไปตามแผน พร้อมร่วมเทศกาลกินหอยเพื่อการกุศลกับชาวชุมชนเกาะแลหนัง
(29 ส.ค. 59) นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กฟผ. ลงพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามความก้าวหน้าการเตรียมงานพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และการดำเนินงานของ กฟผ. รองรับในช่วงการหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติของแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับส่วนราชการ ชุมชน ผู้นำทางศาสนา และเยี่ยมชมการดำเนินงานด้านสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยมี นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วย นายบำเหน็จ บินหรีม นายอำเภอเทพา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ชุมชน และผู้นำทางศาสนาให้การต้อนรับ ณ บริเวณบ้านเกาะแลหนัง หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
[video-0]
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม กล่าวว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินสงขลา เป็นโครงการตามแผน PDP 2015 ที่จะจ่ายไฟฟ้าในปี 2564 และ 2567 เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งในภาพรวมของประเทศจะช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ลดความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงในระยะยาว และรักษาระดับราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม ที่สำคัญจะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สร้างความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี
อย่างไรก็ตามการดำเนินงานจะต้องรับฟังความคิดเห็นและปัญหาของชุมชน และจะต้องดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งด้านสังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในฐานะประธานกรรมการ กฟผ. พร้อมจะติดตาม ดูแลในเรื่องนี้ และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่โครงการฯ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
สำหรับการติดตามผลการดำเนินงานผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. รองรับในช่วงการหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติของแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18)ระหว่างวันที่20-31 สิงหาคม2559 พบว่าแผนงานด้านการผลิตไฟฟ้า ระบบส่ง และเชื้อเพลิง สามารถรองรับสถานการณ์ได้ตามที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ทุกฝ่ายทั้ง กระทรวงพลังงาน กฟผ. และ ปตท. ก็ต้องไม่ประมาท จะต้องมีการเตรียมแผนสำรองกรณีฉุกเฉินไว้ทุกครั้ง เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้า
ด้านนายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าเทพา ได้ดำเนินการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ฉบับปี พ.ศ. 2558-2579 (PDP 2015) เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศและในพื้นที่ภาคใต้ ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาโครงการของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเทพาทุกขั้นตอนให้มีผลกระทบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ตามที่ระบุไว้ในรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA อย่างเคร่งครัด โดยโรงไฟฟ้าถ่านหินของ กฟผ. ได้นำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในเชิงพาณิชย์มาใช้ ทำให้สามารถควบคุมมลภาวะได้ดีในระดับสากล และดีกว่ามาตรฐานที่ประเทศไทยกำหนด เพื่อให้โรงไฟฟ้าเทพาเป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว เป็นโรงไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว และให้อำเภอเทพาเป็นเมืองพักไม่ใช่เมืองผ่านอีกต่อไป
พร้อมกันนี้ทางผู้บริหาร กฟผ.ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเกาะแลหนังและร่วมเทศกาลกินหอยเพื่อการกุศล ซึ่งชาวชุมชนร่วมกันจัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของ กฟผ.เพื่อร่วมกันนำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของทะเลอ่าวไทยในเขตอำเภอเทพา ซึ่ง กฟผ.ยืนยันว่าจะร่วมสนับสนุนให้เมืองเทพาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นในพื้นที่เพื่อส่งเสริมรายได้และเศรษฐกิจที่ดีขึ้นให้ชาวชุมสมกับสโลแกนที่ว่า "กฟผ.ผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย"