เตรียมตั้งสหกรณ์ชุมชนตลาดรถไฟสงขลา หวังระดมทุนขอเช่าพื้นที่โดยตรงจาก รฟท.

ศูนย์ข่าวบ้านเรา.-ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวชุมชนตลาดรถไฟสงขลา และบริษัท มิตรทองสงขลา จำกัด ดูเหมือนจะเป็นละครเรื่องยาวที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ หลังจากกลุ่มมิตรทอง ผู้ได้รับสิทธิ์การเช่าบริหารพื้นที่ตลาดรถไฟเก่าเขตเทศบาลนครสงขลา จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยการต่อสัญญาเช่าครั้งล่าสุดเมื่อปี 2555 ทางบริษัทได้แจ้งปรับค่าเช่าจากผู้เช่าสู่งขึ้นหลายเท่าตัว โดยชี้แจงว่ามีความจำเป็นต้องขึ้นค่าเช่าเพราะ รฟท.เก็บค่าเช่าเพิ่มขึ้นรวมถึงต้องการปรับปรุงพื้นที่ให้มีความสะอาด สวยงาม ทันสมัย 

จากชนวนเหตุความวุ่นวายดังกล่าวทำให้จากปี 2555 ถึงปัจจุบันปัญหาระหว่างมิตรทองกับชาวชุมชนตลาดรถไฟสงขลายังไม่ได้ข้อยุติว่าจะลงเอยเช่นไร แม้จะมีผู้บริหาร รฟท.ผู้บริหารระดับสูงของจังหวัด รวมถึงท้องถิ่นอย่างเทศบาลนครสงขลา เข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยแต่ยังหาข้อสรุปกันไม่ได้ โดยผู้เช่าที่ดั้งเดิมส่วนใหญ่ยิืนยันที่จะไม่ย้ายออกและไม่ยินยอมในการจ่ายค่าเช่าที่สูงขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว

ทางผู้เช่าที่จากการรถไฟชี้แจงอย่างต่อเนื่องถึงเหตุผลและความจำเป็นในการขึ้นค่าเช่า เพราะต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตลาดที่ทันสมัยและคิดว่าค่าเช่าในอัตราดังกล่าวก็เหมาะสมกับสถานที่ตั้งที่เป็นตลาดและเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง และที่สำคัญผู้เช่ามีภาระเกิดขึ้นแล้วจากสัญญาเช่ากับการรถไฟ แต่กลับไม่สามารถเข้ามาพัฒนาพื้นที่ได้ทำให้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยจากทางธนาคารที่กู้มาลงทุนในครั้งนี้ และความขัดแย้งเริ่มบานปลายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทั้งผู้เช่าและรฟท.ต่างเริ่มมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น ทำให้เผู้เช่าช่วงอย่างชาวชุมชนตลาดรถไฟต้องมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือปัญหาที่เกิดขึ้น

นายบวร วัฒนาวีรวงศ์ ประธานชุมชนตลาดรถไฟสงขลา เปิดเผยในการประชุมกับชาวชุมชนตลาดรถไฟสงขลา ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับสัญญาเช่าระหว่างการรถไฟกับกลุ่มมิตรทอง ว่าดูเหมือนจะมีความไม่ราบรื่นเกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีการฟ้องกันอยู่ในชั้นศาล ดังนั้นคาดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ทางการรถไฟจะยกเลิกสัญญาเช่าที่ทำไว้กับมิตรทอง และอาจต้องหาผู้เช่ารายใหม่โดยตามนโยบายของการรถไฟจะไม่มีการทำสัญญาเช่ากับผู้เช่ารายย่อย ดังนั้นการเตรียมรับมือที่ดีที่สุดคือการจัดตั้งองค์กรเพื่อขอเช่าพื้นที่กับการรถไฟโดยตรง 

โดยแนวทางที่เหมาะสมที่สุดที่ทางชาวชุมชนวางไว้คือ การจัดตั้งในรูปแบบของสหกรณ์ เพื่อเป็นองค์กรกลางในการทำสัญญาเช่าที่กับการรถไฟโดยตรง ทั้งนี้จะใช้ชื่อว่าอะไรหรือจะตั้งเมื่อไหร่ยังไม่มีการสรุปเ้พียงแต่เป็นการแจ้งข่าวให้ทุกคนเตรียมความพร้อมเพราะท้ายที่สุดแล้วต้องรอความคืบหน้าสของคดีรวมถึงแนวทางที่ชัดเจนของการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้งว่าจะดำเนินการเช่นไรต่อไป แต่เราในฐานะชาวชุมชนต้องมีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ไว้ก่อน