รัตภูมิใต้ร่มพระบารมี รอยพระบาทรัชกาลที่ 9 ไม่เคยจางหายจากหัวใจ (มีคลิป)


21 ต.ค. 2559

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร คือพระนามเต็มของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ผืนแผ่นดินสยามทุกตารางนิ้วพระองค์ทรงเหยียบย่างเสด็จเยี่ยมราษฎรของพระองค์มาแล้วทั้งสิ้น อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา (ปี 2502 เขียนรัตตภูมิ) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ชาวรัตภูมิไม่เคยลืมเลือน ทีมข่าวบ้านเราได้ลงพื้นที่ตามรอยเเสด็จรัชกาลที่ 9 ที่รัตภูมิ พร้อมพูดคุยกับปราชญ์ชาวบ้านผู้เคยเข้าเฝ้ารับเสด็จเมื่อปี 2502 ลุงเนี่ยม ขุนเพชร อดีตประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ  

85.jpg

เมื่อปี พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรใน 14 จังหวัดภาคใต้เป็นครั้งแรกเริ่มต้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2502 เป็นเวลา 20 วัน ในการเสด็จครั้งนั้นโดยขบวนรถไฟพิเศษจากสถานีจิตรลดาในเวลา 06.45 น.ของเช้าวันที่ 6 มีนาคม ถึงสถานีชุมพร ซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคใต้ ในเวลา 17.45 น. ของวันเดียวกัน โดยพระองค์เสด็จประทับที่ชุมพร 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งต่อไปยังจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟจากนราธิวาสสู่จังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นจังหวัดสุดท้าย

อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นอำเภอรอยต่อจากจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2502 ที่รอยต่อจังหวัดสงขลา-พัทลุง บนถนเพชรเกษม บริเวณที่พักสงฆ์ดอนขี้เหล็ก บ้านพรุพ้อ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้มีการจัดสร้างซุ้มรับเสด็จอย่างสวยงามสมพระเกียรติ ในครั้งนั้นนายประพันธ์ ณ พัทลุง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทูลเกล้าถวายพระแสงราชศัตราประจำจังหวัด ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินี ทรงเยี่ยมทักทายราษฎรก่อนเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ

[video-0]

ปัจจุบันที่พักสงฆ์ดอนขึ้เหล็ก ได้ยกฐานะเป็นวัดและชื่อวัดปฐมยาตราธรรมาราม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระบาทแรกที่เสด็จถึงจังหวัดสงขลาคือที่นี่ รวมถึงมีการจัดสร้างซุ้มรับเสด็จจำลองเหมือนเมื่อครั้งปี 2502 ไว้ที่ประตูวัดแห่งนี้ด้วย และที่บริเวณซุ้มประตูมีบทร้อยกรองบันทึกไว้ว่า “พระบาทแรก ทรงเหยียบย่าง บ้านพรุพ้อ, แผ่นดินพ่อ รัตภูมิ เมืองสงขลา,เมื่อวันที่ สิบเจ็ด เดือนมีนา, ปีสองห้า สูญสอง ก้องแผ่นดิน,สองพระองค์ ทรงเสด็จ เยี่ยมภาคใต้, ปวงไทยได้ ชื่นชม สมถวิล,พระเกียรติยศ ปรากฏ ทั่วธานินทร์, องค์ภูมินทร์ ภัทร- มหาราชา” (ร.ต.อ.เยื้อง สมถวิล/ประพันธ์/5 พ.ย.56) ภายในมีการแสดงภาพประวัติศาสตร์เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยี่มประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดสงขลาด้วย

เมื่อเสด็จเสด็จพระราชดำเนินถึงที่ว่าการอำเภอรัตตภูมิ ทรงหารือข้อราชการ เสด็จที่หน้ามุกต์ที่ว่าการอำเภอ ทรงฉายพระรูปและโบกพระหัตถ์ทักทายราษฎร ซึ่งเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ยังตราตรึงใจชาวรัตภูมิตราบถึงทุกวันนี้ พระองค์ยังเสด็จเยี่ยมพสกนิกรของพระองค์อย่างใกล้ชิด ในวันนั้นมีประชาชนมาเข้าเฝ้ารับเสด็จจำนวนมากมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา บางคนมาตั้งแต่หัวรุ่งไม่มีใครลุกขึ้นหนีหายไปไหน

84.jpg

ปัจจุบันอำเภอรัตภูมิ ได้อนุรักษ์อาคารที่ว่าการอำเภอหลังเดิม สร้างสัญลักษณ์แห่งการเสด็จพระราชดำเนินฯ มีห้องแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ รวบรวมภาพและเรื่องราวต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำเนียบนายอำเภอรัตภูมิ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน รวมรวมของเก่า ของหายากในท้องถิ่นให้ได้ศึกษาเรียนรู้กันด้วย ทั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงมีแก่ชาวรัตภูมิ และเมื่อปี 2552 หลังมีการบูรณะอาคารหลังเดิมเสร็จได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองย้อนรอยเสด็จ 50 ปีที่รัตภูมิอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย  

คุณลุงเนี่ยม ขุนเพชร อายุ 79 ปี อดีตประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ นอกจากเป็นไกด์พาทีมข่าวเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของอำเภอรัตภูมิ ในฐานะหนึ่งในผู้ที่เข้าเฝ้ารับเสด็จเมื่อ 17 มีนาคม 2502 ที่บ้านลุงเนี่ยม มีการเก็บพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงเมื่อครั้งเสด็จถึงจังหวัดสงขลา ที่ซุ้มประตูรอยต่อจังหวัดสงขลา-พัทลุง รวมถึงภาพและบทกลอนอื่นๆ อีกจำนวนมาก 

IMG_2499.JPG

ลุงเนี่ยม เล่าย้อนกลับไปเมื่อปี 2502 ว่าปีนั้นลุงอายุ 22 ปีเพิ่งสึกจากการบวชพระใหม่ๆ และป่วยเป็นโรคไข้น้ำ เป็นผื่นคล้ายหนองขึ้นเต็มตัวเมื่อทราบข่าวจากการทางการว่าในหลวงเสด็จมาที่ที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ ก็รู้สึกตื่นเต้นและรีบไปหาซื้อเสื้อแขนยาวมาใส่เพื่อให้ได้ไปเฝ้ารับเสด็จ โดยออกเดินจากบ้านระยะทางกว่า 3 กิโลเมตรไปเฝ้ารอรับเสด็จตั้งแต่เช้า ซึ่งมีผู้คนรออยู่ก่อนหน้าแล้วเป็นจำนวนมาก แม้จะอยู่ไกลแต่ก็มองเห็นภาพที่ทั้ง 2 พระองค์พูดคุยกับประชาชนอย่างใกล้ชิด และภาพที่ประทับอยู่ในใจตลอดคือ เมื่อทั้ง 2 พระองค์พระราชดำเนินมาที่บริเวณมุกต์หน้าที่ว่าารอำเภอ ในหลวงทรงฉายพระรูป พระราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จ

เมื่อถามถึงความรู้สึกเมื่อทราบข่าวเกี่ยวกับการสวรรคตของในหลวง ลุงเนี่ยม พูดอะไรแทบไม่ออกบอกว่ารู้สึกเสียใจมาก พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวที่เสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวรัตภูมิ รวมถึงคำสอนของพระองค์ก็เป็นแนวทางปฎิบัติที่ตนเองยึดถือมาตลอดชีวิต ทั้งในการดูแลตัวเอง ครอบครัว การปกครองลูกบ้านเมื่อครั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน และประธานสภาตำบลคูหาใต้ รวมถึงงานสาธารณะต่างๆ ที่ยังคงตั้งใจทำอยู่และจะทำต่อไปตลอดชีวิต 

แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่ภาคภูมิใจในแผ่นดินใต้ร่มพระบารมีพระบาทสมเด็จพระปมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะคงอยู่ในใจชาวรัตภูมิสืบไป  

IMG_2612.JPGIMG_2609.JPGIMG_2613.JPGIMG_2619.JPGIMG_2621.JPGIMG_2623.JPGIMG_2626.JPGIMG_2628.JPGIMG_2630.JPGIMG_2631.JPGIMG_2639.JPGวัดปฐมยาตราธรรมาราม

IMG_2603.JPGIMG_2517.JPGIMG_2555.JPGIMG_2536.JPGIMG_2541.JPGIMG_2547.JPGIMG_2546.JPGIMG_2549.JPGIMG_2559.JPGIMG_2585.JPGIMG_2597.JPGIMG_2514.JPGที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ

IMG_2498.JPGIMG_2501.JPGIMG_2489.JPGIMG_2650.JPG

ขอขอบพระคุณผู้ร่วมให้ข้อมูลเส้นทางย้อนรอยเสด็จฯ
คุณลุงเนี่ยม ขุนเพชร อดีตประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ โทร 081-0961208
คุณคนึงนิตย์ คุณมี นักวิชาการวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ โทร 081-8749261
ภาพเก่า หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา/เว็บไซต์รัตภูมิซิตี้ดอทคอม
ป้าเจง ชัชฎา ผู้สื่อข่าวช่อง3 สงขลา เด่น ฤทธิรงค์ ต้อม รัตภูมิ เว็บไซต์กิมหยง ร่วมเก็บภาพ/ข้อมูล 
เพลงประกอบ ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป