แรงงานเมียนมาร์และชาวคลองแห ร่วมกันสร้างเจดีย์ชเวดากองไทย-เมียนมาร์

แรงงานเมียนมาร์ และชาวคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร่วมกันสร้างเจดีย์ชเวดากองไทย-เมียนมาร์ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย

วันที่ 21 ต.ค. 59 ชาวเมียนมาร์ที่เข้ามาทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา และชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ชเวดากอง ไทย-เมียนมาร์ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยใช้พื้นที่ของวัดคลองแหจำนวน 5 ไร่ ใน ม.4 ต.คลองแห เป็นพื้นที่ก่อสร้าง และมีการจำลองแบบให้มีความคล้ายคลึงกับพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ โดยใช้ศิลปะผสมทั้งไทยและเมียนมาร์ โดยฐานเจดีย์มีขนาดกว้าง 19 เมตร ยาว 19 เมตร และความสูงจากยอดเจดีย์ถึงฐานล่าง 19 เมตร ซึ่งขณะนี้โครงสร้างโดยรวมทั้งหมด และการลงสีเสร็จสมบูรณ์ไปเกือบ 90 เปอร์เซ็น หลังก่อสร้างมานานกว่า 2 ปี

สิบโท อุดม เพ็ชรหนู อดีตทหารและเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.คลองแห ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง บอกว่า เจดีย์ชเวดากอง ไทย-เมียนมาร์ เป็นเจดีย์องค์แรกที่ชาวเมียนมาร์สร้างขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์รวมใจของชาวพม่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ชาวเมียนมาร์ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย และซึ้งในความมีน้ำใจของคนไทยที่ชาวเมียนมาร์เข้ามาอยู่ และทำงานอย่างมีความสุข แต่สุดท้ายวันนึงชาวเมียนมาร์เหล่านี้ก็ต้องกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิดของตนเอง จึงอยากจะทำอะไรสักอย่างไว้เป็นที่ระลึก และแสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

ขณะที่หลังการทราบข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็นำความโศกเศร้าอาลัยมาสู่แรงงานชาวเมียนมาร์ที่เข้ามาทำงานใน จ.สงขลา และอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ ไม่น้อยไปกว่าคนไทยเช่นเดียวกัน

สำหรับเจดีย์ชเวดากอง ไทย-เมียนมาร์ ได้วางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 57 โดยใช้เงินบริจาคทั้งจากแรงงานเมียนมาร์ที่เข้ามาทำงานงานในประเทศไทยเกือบทั่วทุกภาคของประเทศ และจากผู้ใจบุญต่างๆ เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท โดยใช้ศิลปะผสมผสานทั้งของไทยและเมียนมาร์ ทั้งตัวเจดีย์สีทองที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเจดีย์ชเวดากองในเมียนมาร์ ส่วนซุ้มประตู ซุ้มพระ ยักษ์ นาค สิงห์ และรูปปั้นนูนต่ำ นูนสูง ต่างๆ ก็จะใช้แบบผสมผสานกันไปตามความเหมาะสม โดยขั้นตอนสุดท้ายเหลือเพียงส่วนยอดของเจดีย์ความสูง 3 เมตร และพระใหญ่ที่ทำมาจากหินขาวอีก 16 องค์ ที่ต้องรอรับมาจากเมียนมาร์ โดยคาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ และทำพิธียกยอดเจดีย์ได้ในช่วงต้นปีหน้า