ม.อ.ปัตตานี แสดงพลังแถลงการณ์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ

ม.อ.ปัตตานี แสดงพลังแถลงการณ์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ  หลังนักเรียนสาธิตบาดเจ็บจากการลอบยิงและจากเหตุระเบิดในตลาดโต้รุ่ง

เมื่อเวลา 15.00 น. 26 ตุลาคม 2559 ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตราธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รศ.อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้นำนักเรียนสาธิต นักศึกษา บุคลากรประมาณ 1,000 คน ร่วมแถลงการณ์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ หลังจากที่เกิดเหตุนายสัจตา ยามา นักเรียนสาธิตอิสลาม วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชั้นม. 4 ได้รับบาดเจ็บจากการถูกคนร้ายยิงเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่ตำบลลำใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และเหตุระเบิดในตลาดโต้รุ่งในเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2559 เวลา ยังผลให้นางสาวนริศรา มากชูชิต (น้องมายด์) นักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  กล่าวมีความตอนหนึ่งว่า “หากคนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นน้อง ของคนที่กระทำ คุณจะรู้สึกอย่างไร และจากการกระทำในวันนั้น ไม่ได้มีผลแค่ในวันนั้น แต่มันมีผลต่อชีวิตชีวิตหนึ่ง กระทบต่อครอบครัวๆหนึ่งโดยที่เขาไม่ได้มีความผิดเลย ผมมาในนามของคนปัตตานีโดยกำเนิด ที่เติบโตมากับสายน้ำปัตตานี และเป็นสมาชิกของสงขลานครินทร์  ผมขอให้ทุกท่านมีกำลังใจ หากเมื่อ 12 ปีที่แล้วเราลุกขึ้นสู้ จะเกิดอะไรขึ้น 

วันนั้นมีการเผาวัด มีการฆ่าพระ ถ้าวันนั้นมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ถูกกระทำลุกขึ้นต่อสู้อะไรจะเกิดขึ้น ลองนึกภาพอิรัก อิหร่าน ลิเบีย มันคงไม่ต่างกัน หรือหากเราถอย หนีออกให้หมดอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไม่แตกต่างกัน การแย่งชิงอำนาจ หรือได้อำนาจจากความรุนแรงมันไม่มีวันจบง่ายๆ ชัยชนะที่ได้มาด้วยความรุนแรงไม่มีวันจะจบง่ายๆ คุณก็จะอยู่กับความรุนแรงตลอดไป เลือดจะนองแผ่นดิน มากกว่าปัจจุบัน แต่เราเลือกที่จะอยู่อย่างสันติวิธี”

ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต่อไปว่า มีหลายกลุ่มในสังคมนี้ที่พยายามต่อสู้ด้วยสันติวิธี ทั้งพี่น้องที่เป็นพุทธ และเป็นมุสลิม เราอยู่กันมาอย่างสงบสุขหลายร้อยปี แต่มีคนไม่กี่คน ที่ต้องการให้ได้มาซึ่งอำนาจจึงตั้งประเด็นทางสังคมที่เป็นเงื่อนไขทางสังคม ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวมีอยู่จริง ทั้งความยากจน การไม่งานทำ การไม่มีที่ยืนในสังคม ความอยุติธรรม ความล้าหลังทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้เราต้องยอมรับ ต้องช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง อย่าติดอยู่กับ 
กับดักแห่งความรุนแรง เรามีสิทธิ์ที่จะเศร้า มีสิทธิ์ที่จะเสียใจ แต่อย่าให้นาน ขอให้ลุกขึ้นและเดินหน้าต่อไป และที่สำคัญให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และอย่าเป็นไฟไหม้ฟาง เพราะมีหลายเหตุการณ์เมื่อเกิดเหตุแล้วมีความเอาใจใส่เยอะ และเมื่อผ่านไปก็ลืมเลือนกันไป

รศ.อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่าชาวมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อสิทธิเสรีภาพและความมั่นคงในการดำเนินชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์  และขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่เป็นเด็กและเยาวชน ที่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากการกระทำที่ส่งผลร้ายทั้งปวงต่อความปลอดภัย สวัสดิภาพ และสภาพจิตใจ

คณะผู้บริหารวิทยาเขตปัตตานี เข้าใจถึงความรู้สึกวิตกกังวลของนักเรียน นักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรที่อยู่ท่ามกลางสภาวะเช่นนี้ จึงขอให้กำลังใจทุกท่านให้สามารถดำเนินชีวิตไปตามปกติและตั้งมั่นในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่าง ๆ ด้วยสันติ ในโอกาสนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ยังมุ่งมั่นในการทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังเสมอมา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดเพื่อยังประโยชน์ให้เกิดแก่เพื่อนมนุษย์ตามปณิธานแห่งพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก อันเป็นที่ยึดมั่น เป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของพวกเราชาวสงขลานครินทร์ตลอดมา