PFP จัดงานใหญ่ฉลองครบรอบ 30 ปี มุ่งเป้าตลาดมุสลิม พร้อมขยายพันธมิตร


1 ธ.ค. 2559

PFP จัดงานใหญ่ฉลองครบรอบ 30 ปี ชี้ทิศทางตลาดอาหารทะเลแปรรูปท้ายปีดีขึ้น พร้อมขยายพันธมิตรเข้าร้านสะดวกซื้อ เดินหน้ารุกตลาดมุสลิมเต็มที่

IMG_7180.JPG

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ที่หาดใหญ่ฮอล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด จัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี โดยมี นายสมพร ใช้บางยาง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมนายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี และทีมผู้บริหาร และแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในครั้งนี้

สำหรับกิจกรรมการจัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี ในครั้งนี้ ก็มีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแถลงทิศทางการตลาดภาพรวมของกลุ่มบริษัท PFP  การโชว์การแสดงต่างๆ รวมถึงรับฟังการร้องเพลงจากนักร้องชื่อดัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นต้น

ภาพรวมทิศทางตลาดอาหารทะเลแปรรูปดีขึ้นส่งท้ายสิ้นปี “พีเอฟพี” ขยายพันธมิตรเข้าร้านค้าสะดวกซื้อ เดินหน้ารุกตลาดมุสลิม ควบคู่กับการดูแลสังคมไทยด้านการศึกษา พร้อมกับปิดแคมเปญ พี.เอฟ.พี. 30 ปี ลุ้นทวีโชค ด้วยผลตอบรับอย่างล้มหลามจากลูกค้าทั่วประเทศ

IMG_7161.JPG

นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็งของประเทศ ภายใต้ตราสินค้าพีเอฟพี (PFP) เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอาหารทะเลแปรรูปในช่วงท้ายของปี 2559 มีสัญญาณไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมของประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นจากการได้เลื่อนอันดับในรายงานต่างๆ ของต่างประเทศ รวมไปถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่เริ่มขยับขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐ อีกทั้งประเทศไทยยังมีศักยภาพสูงในการเป็นผู้ผลิต เนื่องจากมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับ

IMG_7097.JPG

นายทวี ปิยะพัฒนา

ในปี 2559 พีเอฟพีได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดไว้หลักๆ 3 ข้อ ได้แก่ 1.เพิ่มปริมาณการซื้อของลูกค้าเดิม โดยการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆ 2.แสวงหาลูกค้าผ่านช่องทางการออกงานแสดงสินค้าในตลาดใหม่ และ 3.พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2559 ส่งผลให้ในปีนี้ พีเอฟพีมียอดขายเติบโตไปในทิศทางที่น่าพอใจ

“เนื่องจากโรงงานของพีเอฟพีใช้เครื่องจักรการผลิตที่ทันสมัยตามหลักสากล นำเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาติดตั้งใช้งาน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงการจัดเก็บ ทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบตามที่มาตรฐานกำหนด มีทีม R&D ร่วมวิจัยและพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค จากความมุ่งมั่นและความใส่ใจตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จึงทำให้พีเอฟพีได้รับการรับรองมาตรฐานและรางวัลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการได้รับเครื่องหมายฮาลาลในทุกผลิตภัณฑ์จากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่จะช่วยตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ตั้งเป้าให้ไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ในการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกสินค้าและบริการฮาลาล ในอีก 5 ปีข้างหน้า” นายทวี กล่าว

IMG_7166.JPG

ด้าน นายธวัชชัย รัตนะพิสิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. เปิดเผยว่า สัดส่วนของยอดขายต่างประเทศในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งยอดขายหลักอยู่ที่ตลาดในประเทศจีน เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของสินค้าในกลุ่มปูอัด นอกจากนี้ในตลาดมุสลิมยังมีการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ มีการสั่งซื้อเพิ่มเข้ามาในตลาดอินโดนีเซีย โดยในปีหน้าบริษัทจะใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น นำเครื่องจักรเข้ามาเสริมในไลน์การทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่วนตลาดต่างประเทศ มีแผนเจาะตลาดโดยเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

ส่วนตลาดในประเทศ พีเอฟพีได้ขยายพันธมิตรทางธุรกิจไปยังร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ อาทิ CP Fresh Mart, CJ Express, Max Mart, Spar Supermarket , Lawson108  โดยเฉพาะห้าง Makro ที่ขนทัพจัดเต็ม 13 ผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด King of Shabu ได้แก่ เต้าหู้หมึกแผ่น เต้าหู้ชีส เต้าหู้ปลารูปปลา ลูกชิ้นปลาภูเก็ต ลูกชิ้นปลาแซลมอน ลูกชิ้นหมึก คริสตัลไข่ปลา คริสตัลไข่เค็ม หมึกฮอกไกโด ฟิชชีสโรล ปลาม้วนไข่เค็ม รวมไปถึงอาหารทานเล่นอย่าง แหนมปลาหมึก และชิกูว่าชุปเกล็ดขนมปัง เพื่อเอาใจคนรักชาบูโดยเฉพาะ

ในปี 2559 บริษัทฯ ยังได้จัดแคมเปญ“พี.เอฟ.พี. 30 ปี ลุ้นทวีโชค” เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของพีเอฟพีเสมอมา ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นปีจากผู้บริโภค ที่ร่วมส่งชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์เข้ามาร่วมกิจกรรมกว่า 300,000 ชิ้น อีกทั้งตลอดระยะเวลาของกิจกรรม ทีมงานพีเอฟพียังได้เดินสาย Road Show ไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อโปรโมทและเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น

IMG_7070.JPG

นายธวัชชัย รัตนะพิสิฐ

“สำหรับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม พีเอฟพีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องดังกล่าว โดยด้านการศึกษา เราได้จัดตั้งโครงการวิทยาลัยในโรงงาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 ดำเนินการร่วมกับวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ เปิดสอนหลักสูตรการแปรรูปสัตว์น้ำ ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ให้เด็กได้เรียนฟรีและมีงานทำ โดยได้ผลิตนักเรียนอาชีวะที่มีฝีมือออกสู่สังคมไปแล้วกว่า 12 รุ่น และทางบริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับสถาบันอาชีวศึกษา ภาคใต้ 3 เปิดการเรียนการสอนแบบทวิภาคี ระดับปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีไฟฟ้าอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางระบบจัดการโรงงานไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรามีการดูแลพนักงานอย่างเต็มที่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานระบบการบริหารจัดการคุณภาพชีวิตการทำงาน อีกทั้งยังสนับสนุนและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนในชุมชมรอบโรงงาน เพื่อช่วยพัฒนาให้พนักงานและคนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายธวัชชัย กล่าว

IMG_7187.JPGIMG_7201.JPGIMG_7211.JPGIMG_7066.JPGIMG_7059.JPG