ชาวสวนตำบลน้ำน้อย ปลูกพืชทานแล้งแซมในสวนยางสร้างรายได้เสริมทดแทนราคายางตกต่ำ

เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดสงขลา ปลูกพืชน้ำน้อยแซมในสวนยาง สร้างรายได้เสริมเงินเข้ากระเป๋าทุกวัน

จากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และกำลังจะเข้าสู่ภัยแล้ง เกษตรกรเจ้าของสวนยางในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต่ำ นายอรุณ มณีรัตน์ นักวิชาการส่งเสริมเกษตรชำนาญการ อ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่าทางสำนักงานเกษตรอำเภอหาดใหญ่ พร้อมด้วยเทศบาลตำบลน้ำน้อย ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผลักดันให้มีการเสริมสร้างความรู้และสร้างอาชีพเสริม 

ซึ่งก่อนหน้านี้เทศบาลตำบลน้ำน้อยได้สนับสนุนปลูกพืชร่วมยาง คือ ผักเหรียง โดยเน้นย้ำให้เกษตรกรรู้จักประหยัดและเสริมรายได้ให้ตนเองมากขึ้น โดยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางและเกษตรกรทั่วไป ร่วมกันทำงานเพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างสังคมให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน

ด้านนายจรัญ จันทโหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.น้ำน้อย เปิดเผยว่า พี่น้องร้อยละ 80 ในพื้นที่รับผิดชอบประกอบอาชีพสวนยางพารา แต่ในปัจจุบันราคายางพาราตกต่ำ ตนและเกษตรกรได้หันมาปลูกผักแซมในสวนยางและพืชน้ำน้อย ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้หมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร 

ซึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านน้ำน้อย อ.หาดใหญ่ เกษตรกรชาวสวนยางพารา จะปลูกพืชแซมยาง หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นมะละกอ , สับปะรด  ข้าวโพด และ มันขี้หนู ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนได้ทุกวัน เนื่องจากมันขี้หนูเป็นพืชน้ำน้อย และปลูกง่าย เป็นพืชท้องถิ่นซึ่งคนภาคใต้นิยมนำไปแกงส้ม , แกงกระทิ หรือต้มกิน มันขี้หนูใช้เวลาปลูกเพียง 3 - 5 เดือน ก็สามารถขุดมาขายได้แล้ว ราคาถุงละ 20 บาท ประมาณครึ่งกิโลกรัม ซึ่งจะขายในตลาดนัดชุมชนหรือคนในหมู่บ้าน แต่ละวันจำหน่ายได้ถึงวันละ 200 - 500 บาท 

และนอกจากนี้ยังมีการปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำ เกษตรกรสามารถจะเด็ดยอดขายได้โดยตลอด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถเสริมรายได้อย่างสบายไม่เดือดร้อนแม้สภาพเศรษฐกิจจะตกต่ำแต่มีรายได้เข้ากระเป๋าได้ทุกวัน..

 

จันจิรา  บัวน้อย //ข่าว ปชส.สงขลา