สีสันนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ระโนด อัดงบ 2พันล้านแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ
สีสันนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จ.สงขลาติดตามปัญหาน้ำท่วมและให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่4อำเภอลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทุ่มงบ2,000 ล้านแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทิ้งท้ายเรื่องฟุตบอลไทยมั่นใจต้องชนะ
(15ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะลงพื้นที่จ.สงขลา โดยเดินทางไปที่วัดวารีปาโมกข์ ต.ตะเครี๊ยะ อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอริมทะเลสงขลาทั้ง อ.ระโนด กระแสสินธุ์ และอ.สทิงพระ โดยมีประชาชนทั้ง4 อำเภอกว่า 5 พันคนมารอต้อนรับทั้งผู้ประสบภัยและประชาชนทั่วไป
โดยนายกรัฐมนตรีได้ปราศรัยให้กำลังใจกับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมและบอกถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลรวมทั้งแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งในพื้นที่จ.สงขลารวมทั้งระบบการจัดการบริหารน้ำทั้งประเทศ รวมทั้งนโยบายต่างๆที่รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ก่อนที่จะลงเรือล่องไปในคลองตะเครี๊ยะเพื่อดูสภาพน้ำท่วมทั้งสองฝั่งคลอง ซึ่งขณะนี้ยังมีน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ริมคลองอีกบางส่วน และตลอดการล่องเรือนายกรัฐมนตรีได้พูดผ่านโทรโข่งทักทายกับประชาชนอย่างเป็นกันเองและได้รับกำลังใจจากชาวบ้านที่ขอให้นายกอยู่ต่อไปนานๆซึ่งนายกรัฐมนตรีอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนทุกมิติโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางและเป็นไปตามความต้องการของประชาชน เช่น เรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตรช่วงหน้าแล้ง ซึ่งรัฐบาลมีแผนงานอยู่แล้วโดยใช้งบประมาณกลุ่มจังหวัดและงบกลางที่จะเติมให้เพื่อให้การแก้ปัญหารวดเร็วยิ่งขึ้น
“เช่นในส่วนของพื้นที่4 อำเภอของคาบสมุทรสทิงพระได้ใช้งบประมาณ2,000 ล้านบาท มาดำเนินการเรืองน้ำทั้งระบบ ทั้งสร้างพนังกั้นน้ำ ขุดลอกคลองเพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังนาน เพราะเป็นพื้นที่ที่มีน้ำล้อมลอบทั้งสองฝั่งทั้งทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทยซึ่งปีนี้ปริมาณน้ำมีจำนวนมากจึงเกิดน้ำท่วมหนักซึ่งต้องเร่งแก้ไขให้ได้ แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนและต้องไม่มีการขัดขวางแนวทางต่างๆจึงจะประสบความสำเร็จ พร้อมกับย้ำว่าพื้นที่ภาคใต้จะต้องได้รับการพัฒนาให้เทียบเท่ากับภาคอื่นโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งยังมีปัญหาด้านความมั่นคง”
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้พูดถึงเรื่อง พรบ.คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะเรื่องซิงเกิลเกดเวย์ โดยระบุว่า อย่าไปบิดเบือนถ้าทุกคนเข้าใจว่ามันคือเพื่ออะไร แล้วใครต้องถูกดำเนินคดีมันไม่ใช่ทุกคน ไม่ใช่รัฐบาลจะไปล้วงความลับกับใครทุกคนซึ่งมันไม่ใช่ต้องมีเหตุผล เลิกพูดเรื่องซิงเกิลเกดเวย์เพราะไม่ได้ทำ และเพียงแค่ดูว่าตรงไหนที่โพสเข้ามาแล้วไปดูว่ามันเป็นพิษเป็นภัยกับสังคมก็ดูว่าจะแก้อย่างไร และไปหาต้นทางว่ามาจากไหน ไม่งั้นเช็คอะไรไม่ได้เลย วันหน้าจะเกิดปุกปั่นขึ้นหรือก่อเหตุรุนแรงเพราะโลกมันแคบขึ้น ไม่ใช่เป็นการละเมิดแต่หมายถึงผู้ละเมิดกฏหมาย ส่วนผู้ที่ปลุกระดมเรื่องนี้จะใช้กฎหมายดำเนินการแต่ต้องดูถึงเจตนา
และก่อนกลับนายกรัฐมนตรีได้พูดถึงผลการแข่งขันฟุตบอลไทยที่พลาดท่าแพ้อินโดนีเซีย2- 1 เมื่อคืนว่า ไม่เป็นไรเมื่อคืนก็ดูตอนแรกให้กำลังใจนำหนึ่งศูนย์ แต่ก็กลัวว่าจะแผ่ว แต่ตอนหลังอาจะแรงเชียร์และสนามคนเยอะมาก และทีมเพื่อนบ้านก็แข็งแรงเข้มแข็ง แต่ไม่เป็นไรช้างศึกไทยต้องอดทน ส่วนนัดต่อไปวันเสาร์ชนะเล่นให้ชนะ ตั้งใจชนะไว้ก่อนผลออกมาอย่างค่อยว่ากัน ตั้งใจต้องชนะ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางพัฒนากีฬาว่า การพัฒนากีฬาให้ต้องระบบขึ้นตนและรัฐบาลนี้มีแนวความคิดว่าต้องตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาขึ้นมาโดยดึงเอาวิทยาลัยกีฬาเข้ามารวมไว้ด้วยกันและขยายเป็นมหาวิทยาลัยซึ่งจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถของวงการกีฬาไทยให้ชัดเจนขึ้น