50 ปี เงือกทองหาดสมิหลา สัญลักษณ์คู่เมืองสงขลา
เงือกทองหาดสมิหลา สัญลักษณ์คู่เมืองสงขลา ผ่านกาลเวลา 50 ปี ก็ยังคงงดงามไม่เปลี่ยน
ถ้ามาถึงสงขลาแล้วไม่ได้เยือนหาดสมิหลาย่อมถือว่ามาไม่ถึง เพราะที่นี่คือซิกเนอเจอร์ของเมืองสงขลาที่ทุกคนต้องมาแวะถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก หาดสมิหลาเป็นชายหาดที่มีโขดหินขนาดย่อมยื่นลงทะเล ทรายขาวละเอียดมากที่เรียกว่า "ทรายแก้ว" ร่มรื่นด้วยป่าสน และจากหาดสมิหลายังสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเกาะหนูเกาะแมว อีกทั้งบริเวณหาดยังมีสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียง นั่นก็คือ รูปปั้นนางเงือกทอง ที่ทุกคนต้องแวะมาถ่ายภาพเก็บไว้
รูปปั้น นางเงือกทอง ตามประวัติสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 โดยความคิดริเริ่มของ นายชาญ กาญจนาคพันธุ์ ปลัดจังหวัดสงขลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสงขลา ในสมัยนั้น
เงือก ความหมายโดยทั่วไปที่คนจะนึกถึงคือ หญิงสาวที่มีร่างกายท่อนล่างเป็นปลา อาศัยอยู่ในน้ำ เรื่องเล่าของนางเงือกนั้น ยังมีการกล่าวถึงไว้มากมายในหลายประเทศทั่วโลก แม้แต่ประเทศไทยก็มีการกล่าวถึงนางเงือกไว้ในบทประพันธ์ต่างๆ อีกด้วย เรื่องที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุด คือ เงือกในเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่กวีในสมัยพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาล ที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
จากแผ่นจารึกที่ประติมากรรมนางเงือกทอง กล่าวไว้ว่า “ รูปปั้นนางเงือกนี้ สร้างขึ้นในปี 2509 ตามดำริของ นายชาญ กาญจาคพันธุ์ ปลัดจังหวัดสงขลา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสงขลาด้วย โดยให้ อาจารย์ จิตร บัวบุศย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเพาะช่าง เป็นผู้ปั้นหล่อจากบรอนขรมดำ โดยใช้งบประมาณของเทศบาล 60,000 บาท ตั้งชื่อว่า “ เงือกทอง” (GoldenMermaid) เป็นสัญลักษณ์ของแหลมสมิหลามาจนทุกวันนี้ นางเงือก เป็นนางในวรรณคดีไทย เรื่อง พระอภัยมณี ของ สุนทรภู่ เอกกวีสมัยรัชกาลที่ 2 ( พ.ศ. 2352 - 2367 )
ตามคำบอกเล่าของขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) นั้น นิทานปรัมปราไทยเรื่องหนึ่งว่า ในคืนท้องฟ้างาม ณ ชายหาดสวยแห่งหนึ่ง จะมีนางเงือกขึ้นจากทะเลมานั่งหวีผมอยู่ คืนหนึ่งมีชายหนุ่มชาวประมงไปพบเข้า นางเงือกตกใจหนีลงน้ำไป ทิ้งหวีทองคำไว้ ชาวประมงผู้นั้นเฝ้าแต่รอคอย แต่นางเงือกก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย”
เมื่อปั้นและหล่อเสร็จแล้วได้นำมาตั้งบนโขดหินที่แหลมสมิหลา(หาดสมิหลา) และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแหลมสมิหลา(หาดสมิหลา) จังหวัดสงขลามาจนทุกวันนี้
เรื่องเล่าของนางเงือกหาดสมิหลา ยังมีอีกหลายเรื่อง อาทิ เชื่อกันว่าถ้าชายใดได้มาจับนมนางเงือกที่สมิหลาแล้ว ก็จะได้คู่ครองเป็นคนสงขลา เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางขนส่งจังหวัดสงขลายังได้นำนางเงือกหาดสมิหลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด ให้อยู่ในป้ายทะเบียนประมูลของจังหวัดสงขลา อีกด้วย
ปัจจุบัน(พ.ศ.2560) เงือกทอง ก็มีอายุกว่า 50 ปี ผ่านแดด ผ่านฝน ผ่านมรสุม อยู่คู่เมืองสงขลามาอย่างยาวนาน ผู้คนมากมายแวะเวียนมาถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ ว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาเยือนสงขลา แม้จะเวลาผ่านไปนานเท่าไร เงือกทอง ชายหาดสมิหลา ซึ่งเปรียบเสมือนห้องรับแขกธรรมชาติก็จะรอต้อนรับผู้ที่มาเยี่ยมเยือนจังหวัดสงขลาตลอดไป
เส้นทางในการเดินทาง ออกจากหาดใหญ่ มุ่งหน้าไปทางถนนกาญจนวนิช ไปอำเภอเมืองสงขลา ผ่าน 4 แยกไฟแดงน้ำกระจาย (ชาวบ้านเรียก 5 แยกเกาะยอ) ตรงไปตามทางถนนกาญจนวนิช เข้าไปในเมืองสงขลา ผ่านมหาวิทยาลัยทักษิณ , ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา เลี้ยวซ้ายตรง 3 แยกไฟแดงสำโรง เข้าสู่เขตเทศบาลนครสงขลา มุ่งตรงไปจนถึง 4 แยกไฟแดงหอนาฬิกาสงขลา เลี้ยวขวาไปจนถึง 4 แยกไฟแดงพระพุทธฯ แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไฟแดง ผ่านหน้าสนามกีฬาติณสูลานนท์ มุ่งตรงไปจนถึงวงเวียน ก็จะถึงหาดสมิหลา
ถ้าจะมารถประจำทางก็ไม่ยากเลยสามารถใช้บริการใช้บริการรถประจำทางสายหาดใหญ่-สงขลา (รถตู้ และรถสองแถว) แล้วเลือกลงที่บริเวณ 4 แยกไฟแดงหอนาฬิกาสงขลา จะต่อรถตุ๊กๆ หรือนั่งรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือจะเดินชมบรรยากาศ ก็ไม่ไกลเกินไปประมาณ 2 กิโลเมตร เท่านั้นก็จะถึงหาดสมิหลา