ความคืบหน้ากรณีร้องเรียนถนนพังและฝุ่นละอองที่ตำบลชะแล้ สิงหนคร

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา รายงานความคืบหน้าตามที่จังหวัดได้รับการประสานจากชาวบ้านตำบลชะแล้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.60 เวลา 13.00 น.จะมีการยื่นเรื่องว่าได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาฝุ่นละออง บริเวณสี่แยกชะแล ตำบลชะแล้ อำเภอสิงหนคร เบื้องต้นได้ประสานให้อำเภอสิงหนครเข้าร่วมรับเรื่องนั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา แขวงทางหลวงชนบทสงขลา สถานีตำรวจภูธรม่วงงาม อำเภอสิงหนคร เทศบาลตำบลชะแล้ กำนันตำบลชะแล้ และชาวบ้านตำบลชะแล้ - บางเขียดประมาณ 20 คน ได้ร่วมกันประชุมชี้แจงและลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ถนนสายดังกล่าวได้รับงบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัดปี 60 จำนวน 25 ลบ.ก่อสร้างเป็นถนน คสล.กว้าง 9 เมตร ยาว 3.200 กม. ลงนามในสัญญาไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย.60 ระยะเวลา 150 วัน และ อบจ.สข.จะสนับสนุนงบปี 61 เพื่อก่อสร้างถนนสายดังกล่าวให้ตลอดสาย ในระหว่างนี้ชาวบ้านได้เสอแนวทางแก้ไขปัญหาไว้ 3 แนวทาง ได้แก่

1.ขอปรับเปลี่ยนเส้นทางการก่อสร้าง จากจุดบ้านดอนกระทิง - ชะแล้ มาเริ่มที่เส้นทางบางเขียด-ชะแล้ เนื่องจากเห็นว่าเส้นทางบ้านดอนกระทิงได้รับความเดือดร้อนน้อยกว่า 
2.ให้จัดเตรียมรถบรรทุกน้ำ จำนวน 1 คัน ฉีดพ่นน้ำเพื่อเป็นการลดปัญหาฝุ่นละออง
3.ในระหว่างการก่อสร้าง ชาวบ้านขอจัดวางสิ่งกีดขวาง อาทิ ถังน้ำมัน ป้าย ล้อยาง เป็นต้น ไว้บนถนน เพื่อเป็นการชะลอความเร็วของรถ ซึ่งจะทำให้ลดปริมาณฝุ่นละอองลงได้ 

ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นพ้องกันว่า 
1.การแก้ไขและปรับแบบสัญญา ตามข้อ 1 จะทำให้การก่อสร้างถนนล่าช้าออกไป ประกอบกับปัญหาที่แท้จริง คือฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการที่ อบจ.สข.ลงหินคลุกเพื่อการแก้ไขปัญหาหลุ่มบ่อ และเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ จึงไม่จำเป้นที่จะต้องปรับแก้ไขสัญญา 
2.แนวทางการแก้ไข ด้วยการกวาดหินคลุกเดิมออก และจัดรถน้ำมาฉีดราดถนนให้ชุ่ม เพื่อลดฝุ่น (จำนวนครั้งตามความเหมาะสมในแต่ละวัน) โดย อบจ.สข.จะจัดรถน้ำมาปฏิบัติงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2560
3.เมื่อดำเนินการดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องจัดวางสิ่งกีดขวางตามข้อเสนอ 
4.นอกจากนี้ ทางสถานีตำรวจภูธรม่วงงามจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุกในการลดความเร็วในย่านชุมชน และกำหนดเวลาในการใช้เส้นทางดังกล่าว ในระหว่างเวลา 06.00-20.00 น. 

ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประเมินสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาข้างต้นเป็นระยะๆ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง