ชาวจะนะรวมตัวปิดถนนเข้าฟาร์มเลี้ยงไก่ หลังส่งกลิ่นเหม็นนานกว่า 3 เดือน

ชาวบ้านในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา รวมตัวปิดถนนภายในหมู่บ้านทางเข้าฟาร์มเลี้ยงไก่ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่สิ่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงมานานตลอด 3 เดือน ทั้งวันทั้งคืน จนแสบจมูกไม่สามารถทนได้ โดยหลังการหารือได้ขีดเส้นตายภายใน 1 เดือน ทุกอย่างต้องจบ พร้อมยกระดับการเคลื่อนไหว หากไม่เป็นไปตามข้อตกลง

วันที่ 19 มิ.ย. 60 ชาวบ้านในพื้นที่ ม.3 บ้านป่าห้าม ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา ประมาณ 50 คน รวมตัวกันปิดถนนภายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ของบริษัทแห่งหนึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ เพื่อเรียกร้องให้ทางบริษัทเร่งแก้ปัญหากลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงของขี้ไก่จนแสบจมูก เพราะ ได้ส่งผลกระทบ และสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบฟาร์มเลี้ยงไก่มาอย่างหนักตลอด 3 เดือน ที่ผ่านมา หลังจากที่เคยเรียกร้องให้ทางบริษัทเร่งปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่เป็นผล

นายหละ ดู่ไหน ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า ฟาร์มเลี้ยงไก่แห่งนี้เป็นฟาร์มขนาดใหญ่บนเนื้อที่ราว 200 ไร่ แต่ในรอบ 3 เดือนนี้ ชาวบ้านต้องทนรับกับกลิ่นเหม็นของขี้ไก่ที่ถูกนำมาเททิ้งเอาไว้ในบ่อขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงฟาร์มใหม่ทั้งหมด แต่ไม่มีมาตรการใดๆ มารองรับ

ชาวบ้านจึงทนไม่ไหว และต้องปิดถนน เพื่อต้องการให้ทางบริษัทส่งตัวแทนมาชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจน และหากครั้งนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ชาวบ้านก็จะปิดถนนทางเข้าฟาร์มเลี้ยงไก่อย่างถาวรทันที จนกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นได้

และต่อมาในช่วงเที่ยงชาวบ้านยอมสลายตัว และเปิดเส้นทางแล้ว โดยไม่มีเหตุรุนแรงบานปลาย หลังจากที่มีการหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งตัวแทนชาวบ้าน ตัวแทนบริษัท และ ตัวแทนจุฬาราชมนตรี เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

โดยทางบริษัทเจ้าของฟาร์มไก่รับปากที่จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน โดยจะทำการปิดบ่อฝังกลบขี้ไก่ให้มิดชิด เพื่อให้ส่งกลิ่นเหม็นน้อยที่สุด และเร่งดำเนินการก่อสร้างโรงผลิตแก๊สชีวภาพจากขี้ไก่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อนำขี้ไก่จากฟาร์มมาเข้าสู่กระบวนการผลิตแก๊สชีวภาพ เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเอาไว้ใช้ฟาร์ม นอกจากนี้ยังได้มอบเงินเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบผ่านองค์กรมัสยิดในพื้นที่ ม.3 จำนวน 6 แห่ง เพื่อสร้างสาธารณะประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวสร้างความพอใจให้กับชาวบ้านในระดับหนึ่ง แต่ยังคงยืนกรานว่า หากภายใน 1 เดือน ปัญหากลิ่นเหม็นยังไม่จบ ก็จะยกระดับมาตรการเคลื่อนไหวหนักขึ้นอีก