อบจ.เฮ รับมอบที่สนามกอล์ฟ 90ไร่ริมหาดสมิหลามาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ
นายเฉลิมศักดิ์ ปาณศรี ธนารักษ์พื้นที่สงขลา มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.508 ถนนราชดำเนิน ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา เนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ 3 งาน 38.40 ตารางวา มูลค่า 283,439,520.- บาท ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อจัดทำโครงการสวนสาธารณะ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จังหวัดสงขลา)โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี นายกอบจ.สงขลา เป็นผู้รับมอบ
สำหรับที่ดินราชพัสดุเลขทะเบียนที่ สข.508 ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟทองใหญ่ ภายใต้การดูแลของกองกำการตำรวจตระเวนชายแดนภาค4 เป็นพื้นที่สนามกอล์ฟขนาดใหญ่ วิวสวยเพราะอยู่ติดชายทะเลบริเวณริมหาดสมิหลา ใกล้สถานที่ราชการและสถานที่ท่องเที่ยวยที่สำคัญของจังหวัดสงขลา โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง อบจ.สงขลา ภายใต้การนำของนายนิพนธ์ บุญญามณี ได้มีการทำหนังสือขอใช้พื้นที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวเพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีข่าวว่าทางเจ้าของพื้นที่เดิมอย่าง ตชด.ก็เสียดายพื้นที่และมีการยื้อกันพอสมควร
แต่ด้วยการประสานสิบทิศของนายกนิพนธ์ ทำให้สามารถเจรจาขอใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ที่ดินแปลงดังกล่าวน้อเหนือจากอยู่ติดแนวชายทะเลหาดชลาสทัศน์ แหลมสมิหลาแล้ว ยังติดกับพื้นที่สนามติณสูลานนท์ ซึ่งทางอบจ.สงขลาได้รับโอนมาดูแลแทนกกท.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ดินแปลงใหญ่อีกหนึ่งแปลงที่ได้รับมากรมธนารักษ์ จะผลักดันให้การสร้างสงขลาเมืองกีฬาและสันทนาการมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เพราะพื้นที่สนามติณสูลานนท์ จะเป็นสนามกีฬาหลักที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติของจังหวัดสงขลา
และพื้นที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จะถูกสร้างขึ้นในเร็วๆ นี้ก็จะเป็นพื้นที่นันทการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสำหรับชาวสงขลาและผู้มาเยือน ในช่วงปลายปีนี้เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสนามกอล์ฟทองใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นสวนสาธารณะหากเป็นไปตามแบบแปลนที่อบจ.สงขลานำเสนอ พื้นที่แห่งนี้จะมีทั้งสนามหญ้าเที่ยม สนามเอนกประสงค์ ลานเด็กเล่น ลานแอร์โรบิก ลานกลางแจ้งขนาดใหญ่สำหรับจัดงานประจำปีหรือเทศกาลต่างๆ ทางวิ่ง ทางจักรยาน ลานแคมป์ปิ้ง และลานจอดรถที่เพียงพอ
แบบแปลนแผนพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะแห่งใหม่
พื้นที่แห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นมาสวยงามแค่ไหนและจะเป็นปอดที่ท้จริงแห่งใหม่ของชาวสงขลาได้เมื่อไหร่ ต้องติดตามกันต่อไป