บ้านไร่โมเดล ครู+ปราชญ์ชุมชนร่วมสร้างนักเรียนสู่เหรียญทองดนตรีไทยระดับชาติ
ศูนย์ข่าวบ้านเรา.-เด็กเก่งไม่จำเป็นต้องอยู่โรงเรียนดัง ครูเก่งไม่จำเป็นต้องสอนโรงเรียนใหญ่ ปราชญ์เก่งไม่จำเป็นต้องมีปริญญามายืนโชว์ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความเก่งนั้นคือการเป็นคนดีมีจิตใจสาธารณะต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญและประเทศไทยกำลังต้องการ
หลังจากทราบข่าวว่านักเรียนโรงเรียนบ้านไร่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เข้าร่วมแข่งขันดนตรีไทยในการประกวดศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 65 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29-31 มกราคมที่ผ่านมา และได้รับรางวัลเหรียญทอง ในการประกวดดนตรีไทย ประเภทเครื่องสาย “จะเข้” โดยผู้ได้รับรางวัลก็คือเด็กชายพุฒตะพันธุ์ รัตนมณี หรือน้องตุ๊ต๊ะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
รางวัลของน้องตุ๊ต๊ะ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จของโรงเรียนบ้านไร่ แต่เป็นการทำงานแบบ 3 ประสาน โดยเฉพาะ อ.เฉลิมศรี อินทร์วงศ์ อดีตครูผู้ชื่นชอบดนตรีไทย และผู้จัดหาเครื่องดนตรีมามอบให้โรงเรียนและชุมชนบ้านไร่ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว จนเป็นที่มาของการตั้งกลุ่มศิลปินพื้นบ้านบ้านไร่ โดยมีลุงบ่าว นายเสถียร ห่อเพ็ชร และป้าตุ่ย นางจิรวรรณ ห่อเพ็ชร ครูภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการฝึกสอนฝึกซ้อมแก่ชาวชุมชนที่สนใจ รวมถึงเป็นผู้นำในการรับงานแสดงต่างๆ โดยมีชาวชุมชนและเยาวชนในหมู่บ้านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
โรงเรียนบ้านไร่ ภายใต้การนำของผู้อำนวยการหญิงเก่ง อ.วิภารัตน์ พิบูลย์ กล่าวถึงการส่งเสริมดนตรีไทยของโรงเรียนว่า โชคดีที่ชุมชนบ้านไร่มีจิตอาสามาร่วมสนับสนุนการทำงานในหลายด้าน ในด้านดนตรีไทยก็เช่นเดียวกัน อ.เฉลิมศรี แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ยังคงให้ความช่วยเหลือกับโรงเรียนอย่างดีในทุกด้าน ลุงบ่าว ป้าตุ่ย ก็เป็นครูของชาวชุมชนและนักเรียนโรงเรียนบ้านไร่มาแล้วหลายรุ่น รวมถึงน้องตุ๊ต๊ะ ที่ทางโรงเรียนก็เห็นแววในความสามารถของเด็กจึงได้ร่วมกันส่งเสริมให้เต็มรูปแบบ
เมื่อเด็กตั้งใจโรงเรียนก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ อุปกรณ์ไม่พร้อมเราก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย (ญ.ว.) อาจารย์จาก ม.อ.ก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือความตั้งใจของตัวนักเรียนเองแม้เขาเป็นคนที่เรียนไม่เก่งแต่เรื่องความขยันและจิตอาสาต้องยกให้เขาเลย โรงเรียนมีกิจกรรมอะไรก็ช่วยเหลือทุกอย่างทั้งงานหนักงานเบา นี่คือสิ่งที่เรามองเห็นจากตัวนักเรียนว่าบางครั้งด้านวิชาการเขาอาจไม่เก่งแต่ความสามารถด้านอื่นเขายังมีขอเพียงแต่ให้เขาได้มีพื้นที่ในการแสดงออกเท่านั้น
วันนี้โรงเรียนยังได้มีการสานต่อความสามารถด้านดนตรีไทยสู่นักเรียนรุ่นน้องๆ โดยมีคุณครูภาษาไทย อ.ประภาศรี ทองชูดำ เป็นครูที่ปรึกษาและมีปราชญ์ชุมชนเป็นครูผู้สอนตัวจริงให้กับนักเรียน ซึ่งโรงเรียนเชื่อว่าไม่เพียงแค่น้องตุ๊ต๊ะ ที่กำลังจะจบ ม.3 ไปเรียนต่อที่อื่นแล้ว แต่ทางโรงเรียนจะยังคงมีทายาทสืบต่อเพื่อรักษาไว้ซึ่งประเพณีไทย วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ล้ำค่าให้คงอยู่สืบไป
ด้านของน้องตุ๊ต๊ะ มีแต่รอยยิ้มแทนคำพูดกับทีมงานของเรา โดยน้องบอกว่าเรียนดนตรีไทยมาตั้งแต่ ป.3 และร่วมงานกับลุงบ่าว ป้าตุ่ยอยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีในงานบวช งานแต่ง งาบุญต่างๆ ส่วนในอนาคตก็อยากเรียนในสายที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและดนตรีไทยต่อไป และที่สำคัญก็พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้รุ่นน้องที่ชื่นชอบดนตรีไทยของโรงเรียนบ้านไร่ต่อไปด้วย
ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ นางจิรวรรณ ห่อเพ็ชร นายเสถียร ห่อเพ็ชร อ.วิภารัตน์ พิบูลย์ เด็กชายพุฒตะพันธุ์ รัตนมณี อ.ประภาศรี ทองชูดำ และอ.เฉลิมศรี อินทร์วงศ์
นี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จของโรงเรียนบ้านไร่ โรงเรียนประจำชุมชนบ้านไร่ที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาปีที่ 3 และเป็นโรงเรียนดีประจำตำบล ครู โรงเรียน ชุมชน เข้มแข็งสามัคคี เป็นโรงเรียนที่อยู่คู่ชุมชนมายาวนานพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเยาวชนสู่อนาคตที่ดีของชาติต่อไป
ต้อม รัตภูมิ รายงาน