รัชกาลที่ 10 กับความทรงจำเมื่อครั้งเหตุระเบิดที่หาดใหญ่ 16 กันยายน 2549
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นทรงราชย์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เมื่อครั้งดำรงพระอิสสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงแบ่งเบาพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานับปการจากพระราชบิดา และพระราชมารดา โดยมีพระราชกรณียกิจสำคัญเมื่อครั้งเกิดเหตุระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ 16 กันยายน 2549 เช้าวันรุ่งขึ้นสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 10 เสด็จเยี่ยมราษฎรของพระองคืทันที
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2549 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อทอดพระเนตรสถานที่ ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหน้าศูนย์การค้าโอเดียน ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ถนนเสน่หานุสรณ์ และบริเวณร้านนิวเชอรี่นวดแผนโบราณ ตั้งอยู่ริมถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร โดยมีข้าราชการ พ่อค้าประชาชน และทุกองค์กรเข้าเฝ้ารอรับเสด็จฯนับพันคน ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาตลอดเวลา โดยพระองค์ได้ทรงปฏิสันถารอย่างเป็นกันเองกับประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯทั้งสองฝั่งถนน
ในการนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้ทอดพระเนตรบริเวณจุดเกิดเหตุย่านถนนเสน่หานุสรณ์ ทั้ง 3 จุด อย่างใกล้ชิด โดยจุดแรกทรงทอดพระเนตรร้านดีฟวอนเดอร์มิวสิคบาร์ ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของห้างโอเดียน ซึ่งพระองค์เสด็จฯลงไปยังชั้นใต้ดิน และมีปฏิสันถารกับเจ้าของร้านและลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสนพระทัย ต่อมาเสด็จฯไปยังจุดที่ 2 ซึ่งอยู่หน้าประตูทางเข้าห่างจากจุดแรกราว 2 เมตร เพื่อตรวจดูบริเวณโดยรอบที่เสียหายจากเหตุระเบิด
จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินไปยังจุดที่เกิดระเบิด 3 ที่ร้านนิวเชอรี่นวดแผนโบราณ ซึ่งจุดนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งมีทั้งชาวต่างชาติและญาติของผู้เสียชีวิตมาเฝ้ารอรับเสด็จฯ ในจำนวนนี้ มีนางวรรณดี เลาะหะตานนท์ อายุ 40 ปี ภรรยาของนายธวัช เลาะหะตานนท์ อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตพร้อมลูกอีก 5 คนมาเฝ้ารอรับเสด็จฯด้วย
ซึ่งสมเด็จพระบรมฯ ทรงมีปฏิสันถารด้วยความเป็นห่วง และเป็นเวลานานกว่า 20 นาที เนื่องจากครอบครัวของนายธวัช กำลังลำบากต้องขาดเสาหลักของครอบครัวที่สำคัญ นางวรรณดี ยังเป็นมะเร็งที่เต้านม ซึ่งพระบรมฯ ได้รับสั่งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือและพระราชทานกำลังใจให้กับครอบครัวให้เข้มแข็งและต่อสู้ชีวิตต่อไป และทรงรับสั่งว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงทราบข่าวและแสดงความห่วงใยครอบครัวผู้ประสบเหตุทุกครอบครัว
จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ,โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี เพื่อทรงเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังความปลื้มปีติให้กับครอบครัวผู้ประสบเหตุเป็นล้นพ้น
เชื่อว่าภาพความทรงจำเมื่อ 11 ปีที่แล้วยังอยู่ในใจของชาวหาดใหญ่อยู่เสมอ ท่ามกลางความสูญเสียแต่พสกนิกรชาวไทยยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่อย่างหาที่สุดมิได้ มีบทความ “ครั้งหนึ่ง เมื่อถูกระเบิด ได้เฝ้าฟ้าชาย”ของคุณจุฑารัตน์ เกียรติศิริโรจน์ ท่านที่สนใจสามารถอ่านต่อได้ที่ http://www.gotoknow.org/posts/52242
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า www.Gimyong.com