ถาวร วิเคราะห์และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาชายแดนใต้หลังเกิดรุนแรงที่นาทวี


นายถาวร เสนเนียม โพสเฟสบุ๊ควิเคราะห์สถานการณ์และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาหลังเกิดเหตุปล้นเต๊นท์รถในพื้นที่อำเภอนาทวี ผ่านเฟสบุ๊ค  ถาวร เสนเนียม 

เรียนพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย จากการเกิดเหตุร้ายที่คนร้ายปล้นรถยนต์เพื่อนำไปใช้ทำคาร์บอมเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งเกิดเหตุในจังหวัดปัตตานีและส่วนหนึ่งของจังหวัดสงขลา ผมขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกคนที่เสียสละเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในการปฏิหน้าที่ และขอวิเคราะห์สถานการณ์ เสนอแนะดังต่อไปนี้

76.jpg


สาเหตุกรณีคนร้ายปล้นรถนำไปใช้ทำคาร์บอม
1. ตั้งแต่วันที่ 15 -31 สิงหาคม จะเป็นช่วงเวลาของการครบรอบการปฏิบัติการรุนแรงของคนร้าย คนร้ายจึงลงมือปฏิบัติการครั้งรุนแรงเพื่อแสดงศักยภาพ
2. พื้นที่ 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา เป็นพื้นที่ซึ่งมีกองกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง เนื่องจากเป็นพี้นที่เป้าหมายหลัก และทางราชการยังคงประกาศใช้ กฎอัยการศึก พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายใน กฏหมายทั้ง 3 ฉบับนี้ จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการป้องกันและปราบปรามรวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานที่ทำให้คนร้ายปฏิบัติการไม่สะดวก ดังนั้น คนร้ายจึงเปลี่ยนพื้นที่เป้าหมายจาก 3 จังหวัดดังกล่าวเป็นพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ อำเภจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย ซึ่ง 4 อำเภอนี้ได้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน แม้ยังคงใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายใน ทำให้คนร้ายเปลี่ยนพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการมาเป็น 4 อำเภอนี้ เพราะไม่มีการประกาศใช้กฎหมายฉบับที่เข้มข้น ทั้งๆ ที่ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และคณะปฏิบัติงานอย่างดีเยี่ยม และมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว

 

ข้อเสนอแนะ
1. นายดลเลาะห์ แวมะนอ (เจ้าของปอเนาะยีฮาด และเป็นญาติกับเจ้าของปอเนาะบูรพา อ.เจาะไอร้อง ซึ่งถูกปิดไปแล้ว) ไม่นิยมการเจรจาแต่ต้องการสู้รบขั้นเด็ดขาด จึงต้องระมัดระวังกองกำลังที่อยู่ภายใต้การนำของบุคคลผู้นี้ ทางราชการต้องเร่งรัดเอาตัวบุคคลผู้นี้มาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้เพราะก่อนจะถึงกำหนดการเจรจาบุคคลผู้นี้จะสร้างผลงานให้ปรากฏในขั้นรุนแรงเสมอ จึงขอฝากไปถึง พล.อ.อักษรา เกิดผล ว่าในการเจรจาจะต้องตั้งเงื่อนไขต่อรองกับคู่เจรจาเพื่อยุติการปฏิบัติการที่รุนแรงของคู่เจรจาหรือของกองกำลังแนวร่วมให้ได้
2. อ.เทพา และ อ.นาทวี เป็นเขตรอยต่อกับจังหวัดปัตตานี คนร้ายจากปัตตานี จะเคลื่อนกำลังมาปฏิบัตการในเขต เทพา และ นาทวี อยู่เป็นประจำเพราะ เทพา และ นาทวี ไม่ประกาศใช้ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและกฏอัยการศึก ดังนั้น ถนนสายที่เชื่อมระหว่างปัตตานีกับเทพา และ นาทวี ต้องมีจุดสกัดและตั้งด่านอย่างเข้มข้น 
3. กลุ่มคนร้ายที่ยังไม่มีหมายจับ จะได้รับการฝึกให้ปฏิบัติการขั้นรุนแรงที่มีความชำนาญ ดังนั้นจุดสกัดและด่านความมั่นคงจะต้องตรวจอย่างเข้มข้น ไม่มีการเกรงใจและละเว้น
4. สารและอุปกรณ์ตั้งต้นในการประกอบวัตถุระเบิด คนร้ายจะนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น บริเวณตะเข็บแนวชายแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติหรือจุดลักลอบ จะต้องตั้งด่านอย่างเข้มข้น 
5. การที่คนร้ายปฏิบัติการกึ่งล้มเหลวในครั้งนี้ เนื่องจากเหยื่อรอดชีวิตได้ใช้เครื่องมือสื่อสารแจ้งเหตุ ดังนั้น เครื่องมือสื่อสารของหน่วยความมั่งคงและกล้อง CCTV จึงต้องดูแลให้ใช้การได้อย่างสม่ำเสมอ
6. จุดสกัดและด่านตรวจซึ่งผู้บังคับบัญชาสั่งการและมอบหมายจะต้องปฏิบัติการอย่างเข้มข้น ผู้บังคับบัญชาต้องตรวจเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจอย่างสม่ำเสมอ เช่น พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร จะต้องลงไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และจะต้องตั้งสำนักงานรัฐมนตรีส่วนหน้าอยู่ที่นั่น 
7. ขอให้ ครม.ส่วนหน้าเร่งรัดปฏิบัติการให้เกิดความสำเร็จเกี่ยวกับงานภาคประชาสังคมทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ เพื่อดึงมวลชนมาอยู่กับฝ่ายเรา และเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านการข่าว
8. ในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จะต้องกลับมาประกาศใช้กฎอัยการศึก พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควบคู่ไปกับ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร อีกครั้งหนึ่ง เพราะคนร้ายรู้ว่าพื้นที่ 4 อำเภอ การบังคับใช้กฎหมายขาดประสิทธิภาพ จึงหลบมาตั้งหลักอยู่ที่ 4 อำเภอ เจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าเสี่ยงในการรวบรวมพยานหลักฐานและไม่กล้าเสี่ยงในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ จึงขอเสนอให้ประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉินและกฎอัยการศึกอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบ

เนื้อหานี้ในภาษาอื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง/บทความที่น่าสนใจ

  • โรงไฟฟ้าจะนะร่วมเป็นเจ้าภาพโครงการเข้าวัดวันพระประจำเดือนมกราคม 2568
    โรงไฟฟ้าจะนะร่วมเป็นเจ้าภาพโครงการเข้าวัดวันพระประจำเดือนมกราคม 2568
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  สวัสดีปีใหม่และชี้แจงภารกิจในภาคใต้และจังหวัดสงขลา
    การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สวัสดีปีใหม่และชี้แจงภารกิจในภาคใต้และจังหวัดสงขลา
  • กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะ  ได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตร CSR-DIW Continuous Award 2024
    กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะ ได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตร CSR-DIW Continuous Award 2024
  • มูลนิธิโคคา-โคลา ร่วมกัน ม.อ. จัดกิจกรรมเก็บขยะชายหาด “เก็บด้วยรัก ตักด้วยใจยกกำลังสอง” ส่งเสริมการรีไซเคิลอย่างยั่งยืน
    มูลนิธิโคคา-โคลา ร่วมกัน ม.อ. จัดกิจกรรมเก็บขยะชายหาด “เก็บด้วยรัก ตักด้วยใจยกกำลังสอง” ส่งเสริมการรีไซเคิลอย่างยั่งยืน
  • กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะ ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    กฟผ. โรงไฟฟ้าจะนะ ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • เปิดบทสัมภาษณ์ สุดยอดคนขับจากแอป Maxim
    เปิดบทสัมภาษณ์ สุดยอดคนขับจากแอป Maxim
  • ม.อ. สานต่อความสำเร็จ!  เดินหน้าจัด PSU Bazaar on Ground ครั้งที่ 5 ‘ม.อ. เลิฟเวอร์’ 14-16 ก.พ. นี้  หนุน Low Carbon Event พร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการต่อเนื่อง
    ม.อ. สานต่อความสำเร็จ! เดินหน้าจัด PSU Bazaar on Ground ครั้งที่ 5 ‘ม.อ. เลิฟเวอร์’ 14-16 ก.พ. นี้ หนุน Low Carbon Event พร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการต่อเนื่อง
  • หาดใหญ่ฝนตกชุ่มฉ่ำตลอดทั้งวันตามประกาศเตือนภัยจากอุตุ
    หาดใหญ่ฝนตกชุ่มฉ่ำตลอดทั้งวันตามประกาศเตือนภัยจากอุตุ
  • โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกิจกรรมน้ำชายามเช้าข้าวยำสัญจร อำเภอจะนะ
    โรงไฟฟ้าจะนะ ร่วมกิจกรรมน้ำชายามเช้าข้าวยำสัญจร อำเภอจะนะ
  • ร้านยอดนิยมทั่วไทย: Maxim Customer's choice
    ร้านยอดนิยมทั่วไทย: Maxim Customer's choice
  • สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์วันราชประชาสมาสัย 2568  ภายใต้แนวคิด “วงด่างชา ไม่คัน พากัน มาหาหมอ”
    สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์วันราชประชาสมาสัย 2568 ภายใต้แนวคิด “วงด่างชา ไม่คัน พากัน มาหาหมอ”