ปลาสระบัวแหลมสมิหลาน๊อคน้ำเค็มตายอื้อ ด้าน ทน.สงขลา ส่งเจ้าหน้าที่เร่งแก้ปัญหา


11 ก.พ. 2559

เกิดภาวะปลาในสระบัวแหลมสมิหลาเมาน้ำทะเล และทยอยน๊อคตายคาบ่อจำนวนมาก ชาวบ้านแห่นำสวิงไปช้อนตักขึ้นมา สาเหตุมาจากคลื่นลมแรงซัดน้ำทะเลย้อนกลับเข้ามาภายในสระทางท่อน้ำทิ้ง โดยทางเทศบาลนครสงขลาเร่งแก้ปัญหา

q6.jpg

วันที่ 10 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุปลาที่เลี้ยงไว้ในสระบัว ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และพักผ่อนบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา เกิดภาวะปลาเมาน้ำทะเล จนเกิดอาการน็อคน้ำ และลอยขึ้นมาสู่ผิวน้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพาสวิงมาช้อนตักปลาที่กำลังหมดแรง และลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งมีทั้ง ปลาตะเพียน ปลากราย และ ปลาดุก ส่วนลูกปลาตัวเล็กๆที่ไม่สามารถทนกับสภาพน้ำเค็มได้ต่างก็ทยอยตายไปตามๆกัน

หลังเกิดเหตุ นายสมชาย จันทร์ประทิน รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาในสระบัวเกิดอาการเมาน้ำทะเล และน๊อคตาย เนื่องจากสภาพคลื่นลมในทะเลบริเวณชายฝั่งแหลมสมิหลามีกำลังแรง และภายในสระบัวมีท่อระบายน้ำทิ้งออกไปในทะเล คลื่นที่แรง จึงซัดเอาน้ำทะเล ซึ่งเป็นน้ำเค็ม ให้ไหลย้อนกลับเข้ามาในท่อของสระบัว ซึ่งเลี้ยงปลาน้ำจืดเอาไว้จำนวนมาก ทำให้ปลาไม่สามารถปรับสภาพได้ทัน จึงเกิดอาการเมาน้ำทะเล และน็อคน้ำตายอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งทางเทศบาลนครสงขลาได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยทำการปิดวาล์วระบายน้ำทิ้งทันที และเร่งเปลี่ยนถ่ายน้ำ เพื่อไม่ให้ปลาตายยกสระ ส่วนปลาที่เริ่มหมดแรง ก็ให้ชาวบ้านจับไปกินได้ เพราะ ไม่ได้เกิดจากน้ำเสีย หรือสารพิษ และถ้าปล่อยให้ปลาตายไปเอง ก็จะยิ่งส่งผลกระทบหนักขึ้นไปอีก

สำหรับสระบัวแหลมสมิหลาสงขลา เป็นสระบัวขนาดยาว 350 เมตร กว้าง 50 เมตร และ ลึก 2.50 เมตร โดยมีการเลี้ยงปลาน้ำจืดเอาไว้เป็นจำนวนมาก ทั้ง ปลาตะเพียน ปลากราย ปลาดุก ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวนำอาหารมาให้ปลากินทุกวัน  ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 57 เคยเกิดเหตุการณ์ปลาลอยตายเต็มทั้งสระบัวมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากสาเหตุน้ำเน่าเสีย

q1.jpgq2.jpgq3.jpgq4.jpgq5.jpgq7.jpg