สวนมัลเบอร์รี่ ตลิ่งชัน จะนะ พืชทางเลือกใหม่สร้างรายได้เสริมอย่างงาม


1 ก.ย. 2560

สวนมัลเบอร์รี่ ตลิ่งชัน จะนะ พืชทางเลือกใหม่สร้างรายได้เสริมอย่างงาม  สามารถเก็บมัลเบอร์รี่ขายได้ 4 หมื่นบาทต่อเดือน

48.JPG

นายเสกสรร ชูเขียว เกษตรกรชาวสวนยางพาราโค่นต้นยางทำสวนมัลเบอร์รี่ บ้านป่างาม ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ หลังยางราคาตก 3 กิโล 100 บาท โดยมีเกษตรอำเภอจะนะ ชี้ทางให้ปลูกมัลเบอร์รี่ พืชที่สามารถสร้างรายได้ และมีตลาดรองรับ จนประสบความสำเร็จ รวมทั้งทำเกษตรแบบผสมผสานตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 

ขณะเดียวกันจังหวัดสงขลาใช้งบพัฒนาจังหวัด ปี 2559 เข้ามาส่งเสริมการปลูกมัลเบอร์รี่ผลสดแซมสวนยาง สวนมัลเบอร์รี่ บ้านป่างาม ต.ตลิ่งชันเป็นแปลงต้นแบบ และมีผลผลิตส่งขายได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน ในช่วงนี้ได้ทำการตอนกิ่ง มัลเบอร์รี่ส่งขายให้กับเกษตรกรที่สนใจปลูกมัลเบอร์รี่ ใน 3 ราคา คือ กิ่งขนาดเล็ก 100 บาท กิ่งขนาดกลาง 300 บาทและ กิ่งขนาดใหญ่ 500 บาท ซึ่งเป็นรายได้เสริมอย่างงามในแต่ละเดือนที่มีลูกค้าสั่งเข้ามาประมาณ 100 กิ่ง

เครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปมัลเบอร์รี่ ตลิ่งชันมี สมาชิก 11 คน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 30 ไร่ โดยทุกวันนี้สามารถเก็บมัลเบอร์รี่ขายได้วันละ 10-20 กิโลกรัมต่อคน หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 200 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 200 บาท มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 4 หมื่นบาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังแปรรูปเป็นน้ำมัลเบอร์รี่ขายอีกด้วย
 
คุณเสกสรร ชูเขียว กล่าวว่า ปลูกมัลเบอร์รี่มา 4 ปี นับเป็นพืชตัวหนึ่งที่สามารถเพิ่มรายได้เนื่องจากตนเองเป็นชาวสวนยางอยู่แล้ว อยากที่จะเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง รายได้ตอนนี้เก็บอยู่วันหนึ่งประมาณ 10 – 20 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับลูกค้าสั่ง เฉลี่ยเดือนละ 200 กิโลกรัมๆละ 200 บาท สำหรับตลาดยังอยู่ได้เพราะว่ายางราคาตก มันเป็นอาชีพเสริมอีกอาชีพหนึ่ง คิดว่าอยู่ได้และสามารถเลี้ยงครอบครัวได้

46.JPG47.JPG45.JPG50.JPG49.JPG51.JPG52.JPG

ประชา โชคผ่อง /ข่าว จักริน แก้วมณีโชติ/ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา