ประสบการณ์นอกชั้นเรียนกับค่ายอินเตอร์เพื่อสันติภาพ (ม.ทักษิณ)


11 ก.ย. 2560

สวัสดีค่ะดิฉันนางสาวสลิลทิพย์ สร้อยแก้ว นิสิตศศ.บ.ภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ค่ะ

จากประสบการณ์บอกเล่าของเพื่อนที่เคยเข้าร่วมค่าย Initiative for Peace เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ดิฉันมีความรู้ อยากเห็น และอยากเข้าร่วมกิจกรรมดีๆในครั้งนี้ ปีนี้เลยตัดสินใจส่งใบสมัครค่ะ

pigue 1.jpg

ค่ายนี้เริ่มมาจากคณะทำงานซึ่งเป็นอาจารย์ของ The United World College of South East Asia (UWCSEA) โรงเรียนนานาชาติ ในประเทศสิงคโปร์ ได้จัดให้มีการเข้าค่าย IFP (Initiative for Peace) Mae Sot 2017 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและปลูกฝังให้เยาวชนมีความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพ  เป็นกิจกรรมที่จัดให้นักเรียนที่เรียนใน UWCSEA ได้มีโอกาสที่จะได้รับการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศและความสมานฉันท์ในพื้นที่ของความขัดแย้ง โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2001 ปีนี้ค่ายตรงกับวันที่ 21 -  26 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ณ เฮือนคำฟ้า กอล์ฟ รีสอร์ท ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

การไปค่ายครั้งนี้เป็นการเดินทางไปแม่สอดครั้งแรก ฉันตื่นเต้นและมีความกลัวอยู่พอสมควร แอบคิดว่าเราจะอยู่ได้ไหม เราจะกดดันรึเปล่า เพราะจากประสบการณ์ที่เพื่อนเล่า เราต้องแยกกันอยู่ และมีบัดดี้เป็นชาวต่างชาติ ระหว่างการเดินทางของดิฉันกับเพื่อนก็ได้เจอกับน้องคนไทยผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีก 1 คน จึงทำให้เรามีโอกาสได้ทักทายและพูดคุยกันจนถึงที่หมาย เมื่อไปถึงแล้ว ทางคณะของค่ายได้จัดให้พวกเราเข้าที่พักและมอบเสื้อ มอบคู่มือ และบอกว่าเราจะได้อยู่ในที่พักร่วมกับใคร โชคดีที่เพื่อนและดิฉันยังอยู่ด้วยกัน แต่เราต้องแชร์ห้องร่วมกับเพื่อนชาวฮังการีและชาวพม่า ฉันรู้สึกเขินๆเล็กน้อยในการร่วมใช้ชีวิตประจำวันกับเพื่อนที่เรายังไม่เคยเจอหน้าแถมยังเป็นชาวต่างชาติ

                ต่อมาทางคณะได้จัดให้พวกเราไปร่วมละลายพฤติกรรมเพื่อรอเพื่อนชาวต่างชาติอีกส่วนหนึ่งที่ยังมาไม่ถึง อาทิเช่น การเล่นเกมส์เบาๆ กิจกรรมเบาๆ ที่เราสามารถเข้าใจและเริ่มเรียนรู้สำเนียงของเพื่อนๆในแต่ละประเทศ แต่สำเนียงที่ฟังยากที่สุดคืออินเดียและพม่า แต่ดิฉันพยายามฟังและจับใจความที่เขาต้องการพูดทำให้เริ่มเรียนรู้ และวันแรกของดิฉันเลยกลายเป็นวันที่เบาสมองและได้แนะนำตัวพูดคุยทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนต่างชาติมากมาย เช่น พม่า เวียดนาม สิงคโปร์ เบลารุส ไซปรัส อเมริกา อินเดีย เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ คาซัคสถาน มาเลเซีย ฮังการี อังกฤษ และ ออสเตรเลีย

pique 2.jpg

                กิจกรรมหลักที่เราทำกันทุกวันคือการจับกลุ่มอภิปรายกันในประเด็นความเป็นตัวเอง ความสงบ การสร้างคุณค่าในตัวเอง สิทธิของมนุษยชน ศาสนาและความขัดเเย้งของแต่ละพื้นที่ ซึ่งแต่ละประเด็นก็จะมีหัวข้อย่อยที่เราต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในกลุ่มและสรุปออกมา ไม่ว่าจะเป็นการพรีเซ้นท์ในรูปแบบของการเขียน การแสดงละคร หรือการพูดเพื่อแสดงความคิดเห็นกันและสามารถแชร์ความคิดเห็นของเราไปยังบอร์ดที่ทางคณะได้เตรียมไว้ให้รอบๆห้องประชุม และก่อนแยกย้ายเราจะกลับมาที่กลุ่มบัดดี้เดิมของเราเพื่อพูดคุยบทสรุปถึงสิ่งที่เราได้ทำไปในวันนั้นๆ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกครั้งว่าเราได้อะไรจากเนื้อหาที่เราได้ทำการอภิปรายในครั้งนี้ ตอนแรกดิฉันคิดว่าการอภิปรายกันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด กลุ่มที่เราอยู่ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆและเราจะได้รู้จักเพื่อนใหม่กันไปเรื่อยๆ มีโอกาสได้พูดคุยถกเถียง ได้รับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนคนอื่นๆ ได้เรียนรู้สำเนียงแบบเรียลแท้จริง

                กิจกรรมที่ดิฉันชอบคือการออกไปทำกิจกรรมนอกค่ายที่โรงเรียนแห่งหนึ่งของอำเภอแม่สอด เป็นโรงเรียนที่แทบจะมองไม่ออกว่าเป็นโรงเรียนถ้าเราไม่ได้อ่านป้าย เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อยมาก อาคารเรียนที่พังชำรุด นักเรียนใส่ชุดอยู่บ้านมาเรียน และไม่มีอุปกรณ์การกีฬาใดๆให้นักเรียนได้เล่น

จากกิจกรรมครั้งนี้ ดิฉันได้อยู่ฝ่ายอาคารคือรับผิดชอบในการทาสีอาคารเรียนให้น้องๆ กิจกรรมที่ทางค่ายได้จัดไปให้น้องๆคือการละเล่นของแต่ละประเทศ ร่วมทำอาหารไทย เช่น การตำส้มตำ ร่วมเล่นกีฬากับน้องๆ สอนน้องๆเรียนภาษาอังกฤษ เล่นเกมส์ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ มีการแจกไอศครีมให้น้องๆ และมอบอุปกรณ์การกีฬาให้ทางโรงเรียน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมากมายและมองเห็นคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คุณค่าในตัวเอง ได้เรียนรู้ถึงการแบ่งปันไม่ใช่แค่การแบ่งปันทางด้านทุนทรัพย์ แต่เป็นการแบ่งปันภายในใจ แบ่งปันทางรอยยิ้ม และการกระทำที่เราอยากมอบให้กับน้องๆได้มีโอกาสแบ่งปันเหมือนอย่างที่เราได้มีโอกาสมาแบ่งปันให้ใครๆอีกหลายคน

pique 3.jpg

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ดิฉันชอบคือการพูดคุยเกี่ยวกับการขัดแย้งของแต่ละพื้นที่ ดิฉันได้มีโอกาสแชร์เรื่องราวของการขัดแย้งในภาคใต้ของเราให้เพื่อนๆได้ฟังว่าเราเองก็มีปัญหาและพยายามที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร แน่นอนว่ามีการถกเถียงเรื่องการขัดแย้งต่างๆนานาๆไม่ว่าจะเป็นศาสนา ซึ่งประเทศที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือพม่า ทำให้การอภิปรายครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้รับฟังความคิดเห็นใหม่ๆ เปลี่ยนความคิด เปิดใจและยอมรับในการอยู่ร่วมกันในสังคมมากขึ้น การเคารพสิทธิของกันและกัน และการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาครั้งนี้

ในคืนก่อนจะปิดค่ายทางคณะได้มีกิจกรรม Cultural Show ซึ่งเพื่อนๆเเต่ละประเทศจะเเต่งกายด้วยชุดประจำชาติของตัวเองมาเสดง และเปิดโอกาสให้เราเข้าไปร่วมด้วย และในส่วนของคนไทยเราก็ได้ใส่โจงกระเบนที่น้องๆทางโรงเรียนแม่สอดได้เตรียมมาเเสดงรำไทย และ เซิ้งจากภาคอีสาน ซึ่งโชว์ของเราได้เรียกเสียงปรบมือจากเพื่อนๆไม่น้อยเลยทีเดียว

ในวันสุดท้ายก่อนกลับ เราได้ร่วมพูดคุยกับเพื่อนๆ มีการมอบเกียรติบัตรเเละถ่ายรูปร่วมกัน มีการเขียนจดหมายเพื่อมอบให้คนที่เราอยากจะให้กำลังใจและจดจำเราไปตลอดค่ายนี้ ในตลอด 6วันที่แม่สอดดิฉันได้เรียนรู้ทักษะทางภาษา ได้รู้จักและพบเพื่อนมากมาย ทำให้เราเข้าใจในการทำงานเป็นทีมท่ามกลางความแตกต่างของเชื้อชาติ สังคมและวัฒนธรรม ได้ พัฒนาความมั่นใจ กล้าที่จะสื่อสารและเพิ่มทักษะความเป็นผู้นำ เข้าใจวิธีการในการแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้น ได้เรียนรู้วัฒนธรรมอื่นๆ และการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างประสิทธิภาพ มีการแสดงออกและพูดคุย อาทิเช่น สันติภาพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและสร้างชุมชนที่ดี นำความรู้ความคิดเห็นที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมมาพัฒนาตัวเองชุมชน และแบ่งปันประสบการณ์ดีดีให้กับผู้อื่น

เร็วๆนี้ ห้ามพลาดอย่างยิ่ง Initiative For Peace Mae Sot 2018 ระหว่างวันที่ 24 – 29 มิถุนายน พ.ศ.2561 กำลังจะมา น้องๆเพื่อนๆที่สนใจส่งใบสมัครกันได้นะคะ ค่ายนี้พร้อมจะให้ประสบการณ์มากมายกับเราค่ะ