ปภ.สั่งเฝ้าระวังฝนตกหนักและคลื่นลมแรง 8 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก 16-22 ก.พ.


15 ก.พ. 2559

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 8 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออกเตรียมรับมือวาตภัย ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 16 - 22 กุมภาพันธ์ 2559 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย พร้อมแนะประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลและพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางน้ำควรพิจารณางดหรือเลื่อนการเดินเรือในช่วงที่เกิดคลื่นลมแรง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 16-22 กุมภาพันธ์ 2559 ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อาจเกิดคลื่นซัดชายฝั่งรุนแรงในบางพื้นที่ได้

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 8 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือวาตภัย ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ไว้ด้วยพร้อมตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่ท่องเที่ยวริมชายฝั่งทะเล หากเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากคลื่นลมแรงให้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ลงเล่นน้ำ และงดประกอบกิจกรรมทางน้ำ อีกทั้งตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันการล้มทับ ก่อให้เกิดอันตรายได้ กรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ที่สำคัญ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางน้ำควรตรวจสอบสภาพอากาศและรับฟังประกาศเตือนภัยจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด กรณีเกิดคลื่นลมแรงควรพิจารณางดหรือเลื่อนการเดินเรือ รวมถึงการประกอบกิจกรรมทางน้ำในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

3.jpg

ที่มา สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์