กฟผ.หนุนโครงการบ้านพี่เมืองน้อง เทพา-หนองจิก พัฒนาสู่เมืองเศรษฐกิจใหม่ชายแดนใต้
กฟผ.เป็นกองหนุนร่วมสร้างโครงการบ้านพี่เมืองน้อง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ชี้มีเพียงแผนที่แบ่งเขตปกครองแต่ทุกอย่างมีความคล้ายคลึงกัน เทพา กำลังพัฒนาจากการเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าเทพา หนองจิก ได้รับการคัดเลือกเป็นอำเภอต้นแบบสามเศรษฐกิจมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ชี้ 2 อำเภอคือประตูสู่ชายแดนใต้ที่ต้องจับมือพัฒนาไปพร้อมกัน
(18 ต.ค.60) ณ บ้านเกาะแลหนัง ม.3 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา นายสนอง จันทร์รักษ์ นายอำเภอเทพาเป็นประธานการประชุม “ความร่วมมือขับเคลื่อนเทพา-หนองจิก สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกด้าน กำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้อำเภอหนองจิก เป็นเมืองต้นแบบ เมืองหลักของการพัฒนาด้านเกษตรอุตสาหกรรม ส่วนอำเภอเทพา ที่กำลังจะมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน อำเภอรอยต่อสู่ชายแดนใต้ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดึงความร่วมมือ อำเภอ ส่วนราชการ ท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และกฟผ.ปักหมุดเริ่มต้นประสานความร่วมมือ พัฒนาพื้นที่ ส่วนที่มีชายแดนติดต่อกัน ทั้งทางบก ทางน้ำ สอดรับนโยบายแผนพัฒนาจังหวัดให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขและปลอดภัย ลดปัญหายาเสพติดในพื้นที่
[video-0]
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างอำเภอเทพา และอำเภอหนองจิก ซึ่งมีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม โดยเฉพาะตำบลปากบาง ตำบลท่ากำชำ ร่วมขับเคลื่อนแผนบูรณาการแบบ “บ้านพี่เมืองน้อง” การกำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ปี 2561และจะมีการประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่องโดยสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนพร้อมๆ กัน
นายสนอง จันทร์รักษ์ นายอำเภอเทพา กล่าวว่าการขับเคลื่อนโครงการบ้านพี่เมืองน้องเทพา-หนองจิก ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง กฟผ. ชุมชนทั้ง 2 อำเภอ ซึ่งมีส่วนผลักดันโครงการ ฯ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ อาชีพ รายได้ ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และที่สำคัญหากมีโรงไฟฟ้าให้เกิดขึ้น จะได้รับเงินอุดหนุนกองทุนรอบโรงไฟฟ้าเพื่อพัฒนาชุมชน จึงสอดคล้องรับกับนโยบายพัฒนาเมืองต้นแบบ
อำเภอเทพา กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเดินหน้าเทพา สู่แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง แผ่นดินแห่งความสุข ควบคู่การพัฒนาคนและการเอาชนะยาเสพติด ตามแผนดังกล่าวกำหนดกลยุทธ์ไว้ 3 ด้าน คือ เทพาเมืองเกษตร เทพาเมืองตลาด(ค้าขาย) และเทพาเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะร่วมพัฒนาตามสภาพภูมิศาสตร์กับอำเภอหนองจิก ได้แก่ ทางบก ระหว่างแยกดอนยาง-แยกพระพุทธ ทางทะเลระหว่างปากคลองตุยง-ปากคลองสะกอม โดยกาสรขับเคลื่อนโครงการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนราชการ ท้องถิ่น ในพื้นที่ 2 อำเภอ
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหนองจิก กล่าวว่า วันนี้อำเภอหนองจิก ได้รับการคัดเลือกให้เป็นอำเภอต้นแบบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมายที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตชาวหนองจิกให้ดียิ่งขึ้น สนามบินบ่อทองกำลังได้รับการขยายเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ มีการส่งเสริมการลงทุนในเรื่องอุตสาหกรรมเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายในพื้นที่ การจับมือร่วมพัฒนากับอำเภอเทพา ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะ 2 อำเภอนี้มีหลายอย่างที่เหมือนกันมากทั้งด้านภูมิศาสตร์ และประชากรศาสตร์
ส่วนการเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าถ่านกินเทพา หนองจิกในฐานะอำเภอรอยต่อและอาจได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวด้วย ก็ขอให้ กฟผ.เข้ามาให้ความรู้แก่ชาวบ้าน เข้ามาสนับสนุนการพัฒนาด่านต่างๆ ของหนองจิกด้วย ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ กฟผ.ไม่มองข้ามคนอำเภอหนองจิก และเชื่อว่าการพัฒนาด้านต่างๆ ของหนองจิก และเทพา สามารถกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายวีระชัย ยอดเพชร หัวหน้าโครงการเตรียมงานพัฒนาโรงไฟฟ้าเทพา ได้กล่าวว่า กฟผ.ยินดีให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาพื้นที่อำเภอเทพาและอำเภอหนองจิกให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีคุณภาพ เป็นเมืองน่าอยู่ ช่วยส่งเสริม และต่อยอดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ของประชาชนรอบโรงไฟฟ้าและพื้นที่ใกล้เคียง การเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าเทพา ทำตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดทุกประการ
โดยกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าจะมีผลและเม็ดเงินให้ชุมชนทันทีตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และเมื่อเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจะมีเงินเข้ากองทุนปีละไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำไปใช้พัฒนาชุมชนเสริมจากงบประมาณด้านอื่นๆ ภายใต้การกำกับดูแลของตัวแทนชุมชนเอง
สำหรับการประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมสู่ความยั่งยืนในอนาคตเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องระหว่างสองอำเภอ ทั้งอำเภอเทพา อำเภอหนองจิก มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อบต. เข้าร่วมประชุมด้วยความสนใจเป็นจำนวนมาก