ก้าวคนละก้าวของตูน วันที่ 8 ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง แม้จะมีฝนตกรบกวนในบางช่วง


9 พ.ย. 2560

ก้าวคนละก้าวของตูน วันที่ 8 ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง แม้จะมีฝนตกรบกวนในบางช่วงทั้งเช้าและบ่าย โดยมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและมอบทุนวันเดียว 2 โรงเรียน ขณะที่ 2 ข้างทาง ก็ยังคงเต็มไปรอยยิ้ม และความประทับใจของผู้คน

JAY_2168.jpg

วันที่ 8 พ.ย. 60 บรรยากาศการวิ่ง “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ของ ตูน บอดี้สแลม หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัย ร็อกเกอร์หนุ่มชื่อดังของเมืองไทย จากสุดเขตแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุดแดนสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ภายในเวลา 55 วัน นั้น

โดยในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 8 ของการวิ่ง ยังคงอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา เป็นวันที่ 3 ซึ่ง ตูน และททีมวิ่งก้าวคนละก้าว ได้เริ่มออกสตาร์ทเซต 1 ที่วัดน้ำน้อยนอก ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ในช่วงตี 5 ครึ่ง และยังคงได้รับกำลังใจจากชาวสงขลาตลอดเส้นทาง ท่ามกลางสายฝนที่โปรายปรายลงมาเป็นระยะ

ก่อนที่จะจบเซตแรกที่ปั้ม PT อ.เมืองสงขลา ระยะทาง ประมาณ 11 กิโลเมตร ในเวลาประมาณ 7 โมงเช้า แล้วหยุดพัก 1 ชั่วโมง แล้วนั่งรถตู้เดินทางไปทำกิจการกุศล 2 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านน้ำกระจาย ต.พะวง อ.เมืองสงขลา และ โรงเรียนวัดบ่อแดง ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ โดยมีการมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนละ 50,000 บาท และทุนให้นักเรียนชั้น ป.6 แห่งละ 2 ทุน ทุนละ 10,000 บาท

จากนั้นในเวลา 11.00 น. ตูนได้ออกวิ่งในเซต 2 จากปั้ม PT อ.เมืองสงขลา ไปยัง ปั้ม PT อ.สิงหนคร ระยะทาง 11 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองสงขลา กับ อ.สิงหนคร ผ่านสะพานติณสูลานนท์ และ เซต 3 จากปั้ม PT อ.สิงหนคร ไปยัง วัดดีหลวงใน ต.ชิงโค อ.สิงหนคร ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร ส่วนเซต 4 จากวัดดีหลวงใน ไปยัง บ้านจักรคอม อ.สทิงพระ โดยการวิ่งช่วงบ่ายในพื้นที่ อ.สิงหนคร ได้มีฝนตกลงมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่อาจขวางกั้นความตั้งของทั้งตูน และผู้คนที่ออกมาร่วมให้กำลังใจได้ ทั้งนี้ระยะทางที่ตูนวิ่งตลอด 8 วัน นั้น ไกลกว่า 300 กิโลเมตร รวมเวลาเกือบ 90 ชั่วโมง และยอดเงินบริจาค 122 ล้านบาท

นอกจากนั้นตลอดระยะทางการวิ่งของตูน ก็มีเรื่องราวความประทับใจเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งบรรดาแฟนคลับ และผู้ที่ยึดตูนเป็นไอดอล หรือแม้กระทั่งคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่เคยรู้จักตูน มาก่อน เช่น นายกมล ชูโตชนะ อายุ 42  ปี ชาวต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ได้พยายามนำกีต้าร์ของลูกชายมาให้ตูนเซ็นต์มา2วัน และในวันนี้ได้ไปดักรอที่โรงเรียนบ้านน้ำกระจายแต่ก็เข้าไม่ถึงเพราะคนแน่น จากนั้นจึงไปดักรอที่คอสะพานติณสูลานนท์และพยายามแหวกการ์ดและฝูงจนเข้าไปหาตูนจึงสำเร็จได้ลายเซ็นต์จากตูนบนกีต้าและชูมือไชโยด้วยความดีใจ

นายกมล บอกว่า มีลูกชาย2คนคือ ด.ช.พัฒน์สร ชูโตชนะ อายุ 14 ปีและด.ช.กรพัฒน์ ชูโตชนะ อายุ 10 ปี ทั้งคู่ชอบเล่นดนตรีและมีพี่ตูนเป็นไอดอลเมื่อวานนี้ตอนตูนวิ่งถึงต.น้ำน้อย ได้นำกีต้าของลูกชายทั้งสองคนจำนวน 2 ตัวไปให้ตูนเซ็นต์แต่เซ็นได้ของคนพี่ตัวเดียวส่วนคนน้องเซ็นต์ไม่ทัน วันนี้จึงต้องนำกีต้าร์ของคนน้องมาให้พี่ตูน เซ็นต์ให้ได้เพราะคนน้องน้อยใจและร่ำร้องต้องขอลายเซ็นต์ให้ท้าย สุดท้ายก็สามารถทำให้ลูกชายทั้งสองคนได้สำเร็จ และขอขอบคุณพี่ตูน มากๆ

ส่วนอีกความประทับใจเกิดขึ้นในช่วงที่ตูน นั่งรถตู้ออกจากโรงเรียนบ้านน้ำกระจายมีนักเรียนหญิงชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งราว10 คนจากโรงเรียนบำรุงศาสตร์ ได้มาดักรอตูนที่ถนนฝั่งตรงข้ามประตูทางออก เมื่อรถตู้ของตูน ออกมาตูนได้เปิดหน้าต่างชะโงกหน้าโบกมือทักทายในช่วงไม่กี่วินาทีที่รถวิ่งผ่านสร้างความดีใจให้กับนักเรียนหญิงกลุ่มนี้เป็นอย่างมากเพราะได้เห็นหน้าพี่ตูนตามที่ตั้งใจไว้ และบอกว่ามารอตั้งแต่เมื่อวานนี้แต่พี่ตูนวิ่งมาไม่ถึงวันนี้จึงมารอใหม่และขอส่งกำลังให้พี่ตูนสู้ๆ

และอีกเรื่องเกิดขึ้นที่สะพานติณสูลานนท์ เมื่อ นางวาสิตา แซ่ด่าน อายุ47 ปี ได้นำพวงมาลัยเงินสดซึ่งเป็นแบงค์ร้อยจำนวน 30ใบและแนบจดหมายถึงตูนที่แนบมาด้วยหนึ่งฉบับ โดยจ่าหน้าซองว่าจดหมายจากแม่รวยถึงพี่ตูน บอดี้สแลม มาดักรอคณะของตูน

นางวาสิตา เล่าว่า พวงมาลัยเงินสดพร้อมจดหมายเป็นของ คุณแม่ คือ นางจรวย แซ่ด่าน อายุ 79 ปี ซึ่งกำลังป่วยและเพิ่งผ่าตัดสมองที่ให้ตนนำมามอบให้พี่ตูน  เนื่องจากระหว่างที่พวกตนนั่งดูข่าวและพูดถึงการวิ่งของพี่ตูน แม่ได้ถามว่าตูนคือใคร ตนจึงบอกว่าเป็นนักร้องและกำลังวิ่งระดมบริจาคให้โรงพยาบาลจากเบตงถึงแม่สาย  เมื่อแม่ได้ยินจึงบอกว่ามันไกลมากจะวิ่งไหวไหม พร้อมกับยกมือพนมขึ้นหัวและพูดว่าขอให้หลวงปู่ทวดคุ้มครองลูกตูนให้ปลอดภัย พร้อมกับให้ตนนำเงินที่เก็บเล็กผสมน้อยมา10ปีซึ่งเป็นแบงค์ร้อยจำนวน30ใบมาร้อยเป็นพวงมาลัยมอบให้กับตูน พร้อมกับเขียนจดหมายบอกเล่าเรื่องราวของแม่ให้ตูน ได้รู้

IMG_3762.jpgJAY_2195.jpgJAY_2269.jpgJAY_2367.jpgJAY_2391.jpgJAY_2636.jpg