เทพาอ่วม สถานการณ์น้ำท่วมอยู่ในขั้นวิกฤต ผู้ว่าฯ ลุยระดมความช่วยเหลือชาวบ้าน


29 พ.ย. 2560

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำ ในอำเภอเทพา ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะวิฤกต-เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

1.jpg

วันนี้ (29 พ.ย.60) ที่ว่าการอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผอ.ศูนย์ ปภ. เขต 12 สงขลา นายวสันต์ ไชยทวีวงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายสนอง จันทร์รักษ์ นายอำเภอเทพา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอเทพา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ 

ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 7 ตำบล 33 หมู่บ้าน 1800 กว่าครัวเรือน ทั้งนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมทั้งในด้านถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรค พร้อมชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจถึงสถานการณ์และระมัดระวังภัยอันตรายที่มากับน้ำท่วม

ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเทพา ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ โดยน้ำป่าได้ไหลมาจากอำเภอสะบ้าย้อย ไหลเข้าท่วมทำให้บ้านเรือน, สถานที่ราชการในอำเภอเทพา อาทิ ที่ว่าการอำเภอเทพา ที่ทำการไปรษณีย์เทพา สาธารณสุขเทพา สภ. เทพาและโรงเรียนในพื้นที่ที่ปิดการเรียนการสอนไปแล้ว 1 แห่ง เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50-80 ซม. เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูงเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

ทั้งนี้ มีผู้มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว 1 ราย คือ นายลาเตะ เอียดหวัง อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยถูกน้ำพัดไปขณะเดินอยู่ภายในหมู่บ้าน โดยผู้ราชการจังหวัดได้เดินทางไปยังบ้านของนายลาเตะ เอียดหวัง ผู้เสียชีวิต เพื่อมอบเงินช่วยเหลือระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 50,000 บาท, เงินช่วยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ จำนวน 10,000 บาทและเงินช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา 2,000 บาท พร้อมให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

พร้อมกันนี้ยังได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านห้วยปลิง หมู่ที่ 6 ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พร้อมนำเครื่องอุปโภค บริโภค และยารักษาโรคไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสม ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของที่น้องประชาชน รวมไปถึงบ้านเรือนในพื้นที่ โดยมีชาวบ้านอาศัยอยู่ 392 หลังคาเรือนและได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม 70 หลังคาเรือน

2.jpg4.JPG5.JPG6.jpg10.JPG15.JPG

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด /ข่าว ประชา โชคผ่อง/ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา