สำนักข่าวอิศราเผย คดีมีมูล ป.ป.ช.ออกหมายเรียกไพร พัฒโน-พวก แจงกรณีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระ


27 ธ.ค. 2560

ที่มา สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/isranews/62276-nacc-62276.html

คดีมีมูล ป.ป.ช.ออกหมายเรียกไพร พัฒโน-พวก แจงกรณีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระ

คดีมีมูล! ป.ป.ช. ออกบันทึกแจ้ง 'ไพร พัฒโน-พวก' ให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาคดีจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระพุทธมงคลมหาราช เป็นทางการ หลังไต่สวนข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีอำนาจเสนอโครงการใช้จ่ายเงิน แถมรายได้ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์

50.jpg

โครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของ เทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 กำลังถูกจับตามอง เมื่อล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งบันทึกแจ้งนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่กับพวก ให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นทางการ  หลังจากในขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงพบว่า คดีมีมูล  

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหานายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่หลายราย ให้มารับทราบข้อมูลกล่าวหาความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ  ในการดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของ เทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547

ป.ป.ช.ระบุว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่กับพวก ว่ากระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการดำเนินโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของ เทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 และได้มีการแจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนให้รับทราบแล้วนั้น บัดนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาในกรณีดังกล่าว แล้วพบว่าคดีมีมูล จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบ เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป 

สำหรับข้อกล่าวหาคดีนี้ ที่ป.ป.ช.ชี้ว่าคดีมีมูล มีสาระสำคัญ คือ นายไพรและพวก ได้จัดทำโครงการดังกล่าว โดยการสร้างวัตถุมงคลรุ่นมงคลมหาราช และขอจ่ายขาดเงินสะสมของเทศบาลนครหาดใหญ่จำนวน 20 ล้านบาท โดยทำหนังสือขออนุมัติเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2547 เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินโครงการนั้น กรณีนี้ไม่ใช่กิจการที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ นายไพรจึงไม่มีอำนาจที่จะเสนอโครงการดังกล่าวต่อสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ และสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ก็ไม่มีอำนาจที่จะอนุมัติเงินจำนวนนี้ได้ แต่ปรากฎว่าสภาเทศบาลนครหาดใหญ่กลับอนุมติให้จ่ายขาดเงินดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2547 ทั้งๆที่ไม่มีกฎหมาย หนังสือ ระเบียบ หรือข้อบังคับจากกระทรวงมหาดไทยรองรับมาก่อน

นอกจากนี้ทางอนุกรรมการสอบสวนยังสืบทราบมาว่ารายได้ที่ได้จากการเปิดให้เช่าวัตถุมงคลนั้นก็ไม่ได้ถูกนำไปให้บูรณะ ซ่อมแซม องค์พระประจำเมืองนครหาดใหญ่ตามที่วัตถุประสงค์ของโครงการที่ได้แจ้งไว้แต่อย่างใด ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นถือว่ามีมูลเป็นความผิดอาญา ทำให้เกิดความเสียหายต่อเทศบาล

ขณะที่หนึ่งในอดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ถูกป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้ด้วย ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า สำหรับคดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 28 ราย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่  ปัจจุบันมีหลายรายพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว เพราะเรื่องเกิดตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งหลายรายก็ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาเป็นทางจากป.ป.ช.แล้ว และเตรียมที่จะเข้าไปใช้สิทธิ์ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นทางการเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป  

อนึ่ง ในกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ของป.ป.ช. จะเริ่มต้นจากการแต่งตั้งคณะอนุฯไต่สวนข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อสอบสวนรวบรวมพยานเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งภายหลังหากพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีมูล จะมีการแจ้งเรื่องให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้สิทธิ์แก้ข้อกล่าวหาอีกครั้ง จากนั้นถึงจะมีการสรุปผลชี้มูลการไต่สวนคดีเป็นทางการ ปัจจุบันคดีนี้ อยู่ในขั้นตอนชี้ว่าคดีมีมูล ยังไม่ได้มีการสรุปผลการไต่สวนคดีเป็นทางการ นายไพรและพวก จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่