ข้องใจท่าที สถ.นายกไพร แจงทำตามระเบียบแต่ถูกแจ้ง ป.ป.ช.สอบคดีบูรณะพระประจำเมืองหาดใหญ่


28 ธ.ค. 2560

ที่มา สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/isranews-news/62297-prai00.html

ข้องใจท่าที สถ.!'ไพร'แจงทำตามระเบียบแต่ถูกแจ้ง ป.ป.ช.สอบคดีบูรณะพระประจำเมืองหาดใหญ่

'ไพร พัฒโน' ยันทำโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ถูกต้องตามระเบียบ ผ่านการพิจารณาผู้ว่าฯ เรียบร้อย ชี้ปัญหาเป็นความผิดพลาดเรื่องอำนาจ-เอกสารมากกว่า ข้องใจอยู่ๆ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะบอก ป.ป.ช.ว่าโครงการนี้ไม่เหมาะสม ส่วนปมการใช้จ่ายเงินบูรณะพระ ระบุนำไปใช้คืนเงินยืมตั้งต้น ทำพีอาร์ให้คนมาบูรณะมากขึ้น ส่วนกรณีเช่า สตง.สอบแล้ว ไม่มีพบปัญหาอะไร 

66.jpg

จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหานายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่หลายราย ให้มารับทราบข้อมูลกล่าวหาความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการดำเนินงานโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของ เทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่กับพวก ว่ากระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการดำเนินโครงการจัดหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ ‘พระพุทธมงคลมหาราช’ ของ เทศบาลนครหาดใหญ่ เมื่อปี 2547 และได้มีการแจ้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนให้รับทราบแล้วนั้น บัดนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาในกรณีดังกล่าว แล้วพบว่าคดีมีมูล จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบ เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป (อ่านประกอบ : คดีมีมูล!ป.ป.ช.ออกหมายเรียก'ไพร พัฒโน-พวก แจงกรณีหาทุนซื้อทองคำปิดองค์พระประจำเมืองปี47)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยนายไพร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดในเรื่องของอำนาจและเรื่องของเอกสารมากกว่า โดย1.ประเด็นเรื่องการอนุมัติโครงการผ่านสภาเทศบาลนั้น ความเป็นไปเป็นมา มาจากกรณีที่ช่วงปี 2547 ตนได้หารือไปกับเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาโครงการ ว่าจะดำเนินโครงการนี้อย่างไรดี จะระดมทุนเรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะองค์พระกันเอง หรือว่าจะยื่นเรื่องขอจ่ายขาดจากทางสภาเทศบาลดี ซึ่งในที่สุดพวกตนก็ตัดสินว่าจะขอจ่ายขาดจากทางสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ และเมื่อเรื่องไปสู่ทางสภาเทศบาลนครหาดใหญ่แล้ว ก็มีการอนุมัติโครงการนี้ จากนั้นจึงส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในขณะนั้น ซึ่งก็อนุมัติโครงการ และพอดำเนินโครงการไปสักพัก ตนก็ส่งรายงานความคืบหน้าโครงการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้ทำเรื่องรายงานโครงการส่งผ่านไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งไปให้กระทรวงมหาดไทย และเมื่อเวลาผ่านไป กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นก็ไม่ได้ส่งข้อทักท้วงถึงความไม่เหมาะสมของโครงการแต่อย่างใด

"ผมมองว่าเป็นเรื่องแปลกมาก ถ้าหากในปัจจุบันกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ดีๆ จะมาบอกทาง ป.ป.ช.ว่าโครงการนี้ไม่เหมาะสมได้อย่างไร อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในเวลานั้นเขามีอำนาจที่จะทำได้และสามารถยกเว้นระเบียบได้" 

นายไพรกล่าวต่อว่า ส่วนในประเด็นที่กล่าวหาว่ารายได้จากโครงการนั้นไม่ได้ถูกนำไปใช้บูรณะพระนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เพราะว่ารายได้ที่ได้จากการให้เช่าพระ จะถูกนำไปใช้ 2 ส่วน คือ 1. ต้องนำไปคืนเทศบาลที่ยืมเงินตั้งต้นดำเนินโครงการมาจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ก็ยังคืนเงินจำนวนดังกล่าวไม่ครบ การจะคืนเงินให้ครบนั้นจะต้องเอาพระจากโครงการมาเปิดให้เช่า ซึ่งตนคาดว่าหลังจากคืนเงินให้เทศบาลครบ 20 ล้านบาทแล้วจะเหลือพระให้เช่าได้อีกไม่น้อยกว่า 80 ล้านบาท และ 2.เงินรายได้ที่ได้จากการเช่าพระนั้นอีกส่วนถูกนำไปใช้ในกิจการปลุกเสกพระให้คนมาเช่าพระเพิ่มขึ้น นิมนตร์พระมาร่วมทำบุญองค์พระประจำเมืองหาดใหญ่ และในด้านประชาสัมพันธ์ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อการบอกบุญให้ผู้คนมารู้จักองค์พระประจำเมืองนครหาดใหญ่ เพื่อให้มาบูรณะองค์พระนี้ ซึ่งการบูรณะพระตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ใช้วิธีการบอกบุญให้คนมาบูรณะพระมาโดยตลอด ในช่วงเวลา 10 กว่าปีนับตั้งแต่ปี 2547 นั้น ตนคาดว่ามีการบูรณะพระใช้เงินไปจำนวนหลายล้านบาทแล้ว

นายไพร ยังกล่าวด้วยว่า ในประเด็นเรื่องการให้เช่าพระนั้น ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ได้เข้ามาตรวจสอบโครงการการให้เช่าพระแล้ว ก็พบว่าไม่มีปัญหาอะไรในการดำเนินการ สตง. ก็ได้บอกให้เทศบาลไปจัดทำบัญชีสต็อกพระและรายรับรายจ่ายให้เป็นระบบ ซึ่งทางเทศบาลก็ได้ดำเนินการไปตามข้อเสนอของ สตง.

" ผมมีข้อสังเกตุว่าในชั้นของเทศบาลและในชั้นของจังหวัดนั้นมีเอกสารหายไปจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าโครงการนี้มีการทุจริตและยากต่อการชี้แจง ส่วนเรื่องจะไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.เมื่อไรนั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้หนังสื่อจาก ป.ป.ช." นายไพรระบุ