บินตรงหาดใหญ่-พัทยา เที่ยวเกาะล้าน ชมเรือหลวงฯ
. . . สมัยเมื่อยังเป็นทหารเรือ ทุกเดือนจะต้องเดินทางจากหาดใหญ่นั้น ต้องนั่งรถมายังเอกมัย แล้วต่อรถไปยังสายใต้ใหม่ เพื่อขึ้นรถบัสปรับอากาศประจำทาง หรือไปหัวลำโพงเพื่อขึ้นรถไฟ ซึ่งรวมแล้วต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ครั้นจะไปดอนเมืองเพื่อนั่งเครื่องก็เกินฝัน เพราะสมัยนั้นตั๋วราคาสูงมาก ๆ
วันนี้จากที่ต้องนั่งรถหลายต่อ ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืน กลายเป็นแหวกอากาศบินลัดฟ้าแค่ชั่วโมงกว่า แถมราคาก็ประหยัดเริ่มต้นแค่ 590 เท่านั้น เพราะแอร์เอเชียเปิดเส้นทางใหม่ หาดใหญ่-พัทยา ที่เพิ่งเริ่มบินสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมานี่เอง นอกจากจะทำให้การเดินทางระหว่างหาดใหญ่ - ชลบุรีสะดวกแล้ว ยังทำให้หาดใหญ่มีจุดหมายการบินเพิ่มขึ้นมาเป็นตัวเลือกอีกแห่ง และแน่นอนที่สุดกิมหยงก็พร้อมรีวิวออกโบยบินเส้นทางดังกล่าว เก็บภาพเก็บข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง . . .
โปรโมชั่น หาดใหญ่ - พัทยา เริ่มต้น 590.-
เริ่มต้นด้วยการจองตั๋ว ก่อนอื่นต้องบอกข้อมูลก่อน เส้นทางหาดใหญ่ - พัทยานั้น จะบิน 4 วันต่อสัปดาห์ โดยจะบินวันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ เลือกจองวันที่ต้องการ พร้อมกับเลือกที่นั่งได้อีกด้วย บริการสุดพิเศษจากแอร์เอเชีย ที่ให้เรามีอิสระในการเลือกที่นั่ง ไม่ว่าจะริมทางเดินจะริมหน้าต่างเลือกได้หมด (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
ตู้เช็คอินด้วยตัวเอง อีกหนึ่งบริการของแอร์เอเชีย
ในวันเดินทางต้องใช้บัตรประชาชนและบัตรโดยสาร Boarding Pass ไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้จากการปริ้นจากหน้าเว็บ หรือเค้าเตอร์เช็คอิน หรือจะใช้บริการตู้เช็คอินด้วยตัวเองก็ได้ ส่วนสัมภาระไม่เกิน 7 กิโลกรัม สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ สำหรับเที่ยวบินหาดใหญ่ - พัทยานั้น จะออกเดินทางจากหาดใหญ่เวลา 20.05 น. ถึงอู่ตะเภาในเวลา 21.15 น. จากนั้นก็เดินทางต่อโดยรถตู้ไปยังพัทยา หรือจะเลือกเดินทางไประยองก็ได้ เคล็ดลับจุดนี้ถ้าไม่มีรถส่วนตัว แนะนำให้ใช้บริการเที่ยวบินพร้อมบริการรับส่งสู่พัทยา จะคิดราคาตั๋วเครื่องบินเพิ่ม +150.- เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าบริการแพงถึง 250.- เลยทีเดียว
ค่ารถตู้โดยสารจากอู่ตะเภาพัทยา 250.- ถ้าจองผ่านแอร์เอเชียเหลือ 150.-
สำหรับสนามบินอู่ตะเภานั้น ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งอยู่ติดกับ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ลักษณะเป็นสนามบินในค่ายทหาร มีการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานมาก เสียดายเที่ยวบินจากหาดใหญ่มาถึงค่อนข้างดึก เลยไม่เห็นสภาพสนามบินที่นี่เลย มาต่อเรื่องเรากันดีกว่า หลังจากจ่ายค่าบริการรถตู้แล้ว ขึ้นรถออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภาใช้เวลาเดินทางกว่าครึ่งชั่วโมงก็ถึง "พัทยา เมืองศิวิไลในยามราตรี"
Pattaya Walking Street ถนนบันเทิงของเมืองพัทยา
Walking Street ถนนสายบันเทิงไฮไลท์ของเมืองพัทยา มีโอกาสได้มาเดินที่นี่เป็นครั้งแรก ถึงกับ อึ้ง!!! ทึ่ง!!! ไปพักหนึ่ง เนื่องจากตลอด 2 ฝั่งถนนที่มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงหลากหลายรูปแบบ พร้อมมีสาว ๆ ทั้งร้องทั้งเต้นคอยเรียกนักท่องเที่ยวอย่างมีสีสัน จากเท่าที่สังเกตุดู นักท่องเที่ยวแทบจะเป็นฝรั่งล้วน และที่นี่เป็นสถานที่แปลก เพราะสถานบันเทิงส่วนใหญ่จะเปิดโล่ง Open Air กันเลย แถมหันเก้าอี้ออกนอกร้านชมทิวทัศน์จากถนนแทน นับว่าแปลกดี
ตัวเมืองพัทยา เมืองที่มีความเจริญอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร
ทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองพัทยา จะว่าไปแล้ว ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเขตปกครองพิเศษเมืองพัทยา เป็นเมืองที่มีความเจริญสูงสุดรองจากกรุงเทพ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่อยู่ใกล้ทะเล การเดินทางก็สะดวกสบาย เลยทำให้เมืองพัทยาโตวันโตคืน กลายเป็นเมืองใหญ่มีตึกสูงสวยงามขึ้นเรียงรายโค้งยาวเต็มริมฝั่งทะเล บรรยากาศคล้ายเมืองนอก แอบภูมิใจแทนชาวพัทยาเลยนะเนี๊ย
เรือโดยสารระหว่างเกาะล้าน - พัทยา ค่าโดยสารเพียง 30.- เท่านั้น
นั่งเรือ สู่เกาะล้าน หลังจากตื่นตาตื่นใจกับเมืองพัทยา ถึงคราวปฎิบัติภาระกิจนำเที่ยวเกาะล้าน วิธีการเดินทางไปเกาะล้านนั้น ค่อนข้างง่ายและสะดวกสบายที่สุดในบรรดาการเที่ยวเกาะของเมืองไทย เริ่มการเดินทางที่ท่าเรือพัทยาใต้ จากนั้นรอขึ้นเรือไปเกาะล้าน จากเท่าที่สังเกตุดู ใช้เวลาประมาณ 10 - 15 นาที นักท่องเที่ยวก็ขึ้นเรือเต็มลำ พร้อมออกเดินทางสู่เกาะล้าน ด้วยค่าโดยสารเพียง 30 บาทเท่านั้น โดยจะใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง ก็ถึงท่าหน้าบ้านเกาะล้าน ที่ตั้งห่างจากตัวเมืองพัทยาราว 8 กิโลเมตร
หาดตาแหวน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะล้าน
ความรู้สึกแรกที่มาถึงท่าเรือหน้าบ้าน เห็นฝูงปลาแวกว่ายท่ามกลางน้ำทะเลที่ใสวิ้งก็เริ่มแปลกใจเล็กน้อย ก็คงแค่น้ำใสไม่น่าจะมีอะไรมาก จากนั้นก็ออกเดินเก็บข้อมูล และถือเป็นธรรมเนียมในการปฎิบัติที่จะเดินสำรวจ พร้อมสอบถามข้อมูลนั่นนู้นนี่กับผู้คนเกาะ ก็แปลกใจอีกอย่าง ที่ผู้คนจะพูดคุยสุภาพอัธยาศัยดีมาก สอบถามราคาสินค้า ก็ไม่ได้แพงเวอร์มากมาย บนเกาะล้านมีร้านเลข 7 อยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือหน้าบ้าน ราคาสินค้าแพงขึ้นแค่ 10-20% เท่านั้นเอง นับเป็นสถิติใหม่เลย เพราะตั้งแต่เที่ยวเกาะมา เกาะล้านนี่แหละที่ราคาสินค้าถูกที่สุด
บนเกาะล้านจะใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง เช่าทั้งวันแค่ 200.-
การเดินทางบนเกาะล้าน จะมีวินมอไซค์เหมือนบนฝั่ง ที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวไปไหนก็ได้ทั้งเกาะ แต่ที่นิยมทำกันบนเกาะ คือการเช่ามอเตอร์ไซค์ขับตะลุยเที่ยวทั้งเกาะ ซึ่งค่าบริการไม่แพงเลย เพียง 200 บาทต่อวัน (เฉพาะกลางวัน) ก็นำมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวไหนก็ได้ แถมน้ำมันก็ไม่ต้องเติมเองอีก ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ เพราะหากคิดดูแล้ว หักค่าน้ำมันไปสัก 2 - 3 ลิตร ก็เหลือค่ามอเตอร์ไซค์แค่ไม่กี่สิบบาทเอง
หาดตาแหวน หาดทรายสวย น้ำใส เหมาะแก่การตากอากาศและเล่นน้ำ
หาดตาแหวน เป็นชายหาดรูปเกือกม้าที่ได้รับความนิยมมากสุดของเกาะล้าน จุดเด่นของหาดนี้คือหาดสวย น้ำใส น้ำตื้นเหมาะแก่การเล่นน้ำ มีร้านค้าบริการมากมาย นอกจากนี้ยังเดินทางมาสะดวกอีกด้วย จริง ๆ แล้ว เกาะล้านมีท่าเทียบเรืออยู่ 2 แห่ง คือท่าหน้าบ้านจุดที่เราลงเรือ และท่าหาดตาแหวนตรงนี้อีกท่าหนึ่ง ใครที่ตั้งใจจะมาหาดตาแหวน ก็นั่งเรือมาลงที่นี่ได้เลย แต่ต้องอ้อมด้านหลังเกาะ
อาคารปลากระเบนผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ และหาดเทียน
นอกจากเกาะล้านจะมีชายหาดสวยงามขึ้นชื่ออย่างหาดตาแหวน ยังมีชายหาดสวยงามอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหาดเทียน หาดแสม (อ่านว่า สะแหม) หาดตายาย หาดนวล หาดทองหลาง แทบจะเรียกได้ว่าทุกทิศทั่วเกาะจะมีชายหาดสวย ๆ ไว้รอต้อนรับนักท่องเทียว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ขอเข้าเยี่ยมชมดูงาน คืออาคารปลากระเบน โครงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้พลังงานทดแทน โดยอาคารหลังนี้จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มาใช้หมุนเวียนในเกาะ แก้ปัญหาการผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากจะมีพลังงานแสงอาทิตย์นี้ โครงการนี่ยังมีกังหันลมอีกนับสิบตัวที่ตั้งรับกระแสลมเพื่อผลิตไฟฟ้า ใครสนใจด้านพลังงานทดแทน พลังงานสะอาดต้องไม่พลาดแวะชมอาคารปลากระเบนแห่งนี้
เยือน น.ย. อ่าวนาวิกโยธิน หาดเตยงามอีกครา . . .
ยังจำสมัยตอนเป็นทหารรับใช้ชาติ ต้องตื่นหัวรุ่งเก็บกวาดใบไม้บริเวณหาดเตยงามให้แลดูสะอาดตา สมัยนั้นหาดเตยงามค่อนข้างจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในเท่านั้น แต่สมัยนี้ดูเหมือนหาดเตยงาม จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของสัตหีบไปแล้ว ความสะอาดความเป็นระเบียบยังเนี๊ยบคงเดิมตามแบบฉบับนาวิกโยธิน แต่ที่เปลี่ยนไปคือการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น มีศูนย์อาหาร มีเรือพาย เรือชมปะการังไว้บริการนักท่องเที่ยว
ชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร
คงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ หากครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสสัมผัสเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดของประเทศ ขนาดตัวเรือลำมหึมา เมื่อเทียบกันแล้วเรากลายเป็นมดตัวเล็ก ๆ ไปเลย เรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ลำแรกในภูมิภาคอาเซียน วิ่งฝ่าพายุคลื่นลมรุนแรงระดับ 9 ได้ โดยสามารถทนคลื่นสูงถึง 13 เมตร เรือหลวงลำนี้ขึ้นระวางประจำการตั้งแต่ปี 2540 มีหน้าที่ปฏิบัติภารกิจด้านยุทธการ และดูแลช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติทางทะเล โดยเรือหลวงลำนี้ได้ออกปฎิบัตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซึนามีถล่มชายฝั่งอันดามัน พายุถล่มชุมพรและสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ในปี 2543 และ 2553 เรือหลวงจักรีนฤเบศวรก็เคยออกเดินทางมาทอดสมอที่เกาะหนู เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่หาดใหญ่-สงขลา ปัจจุบันจอดเตรียมความพร้อมรอคำสั่งอยู่ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวัน
เข้าคิวขึ้นชมเรือหลวงฯ
แม้เรือหลวงฯ จะขึ้นระวางประจำการมาแล้วเกือบ 20 ปี ก็ยอมรับ ว่านี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ขึ้นเรือหลวงลำใหญ่สุดของประเทศเรา หลังจากเข้าคิวเพื่อรอขึ้นตัวเรือแล้ว จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดขึ้นสู่ตัวเรือ หากมาเป็นหมู่คณะจะมีวิทยากรบรรยายพร้อมฉายวีดีทัศน์ให้ชมถึงประวัติ และภารกิจของเรือ จบแล้วก็ถึงเวลาขึ้นชมตัวเรือ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ประมาณ 40 - 50 ขั้น ก็จะถึงดาดฟ้าเรือ แต่หากใครไม่สะดวกทางเรือหลวงมีลิฟท์ไว้บริการด้วยเช่นกัน ครอบครัวควรพาเด็ก ๆ ขึ้นเรือหลวงสักครั้ง ปลูกฝังให้เด็กรักชาติ หวงแหนในผืนน้ำผืนแผ่นดินไทย อีกทั้งยังได้ประสบการณ์อันตื่นตาตื่นใจอีกด้วย
ปิดท้ายทริปก่อนบินกลับ ที่หาดนางรำ-หาดนางรอง
หลังจากขึ้นเรือหลวงฯ ยังพอเหลือเวลาอยู่บ้าง เลยแวะเที่ยวสถานที่ตากอากาศริมทะเลอีกแห่งของชาวสัตหีบ หาดนางรำ-หาดนางรอง เป็นหาดที่เปิดให้ประชาชนเข้าท่องเที่ยวภายใต้การกำกับดูแลของทหารเรือ แว็บแรกที่เห็นหาดนางรำ ถึงกับอึ้ง เพราะแทบไม่มีที่ว่างของริมหาดเหลืออยู่เลย จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวปูเสื่อปิกนิคกันอย่างมีความสุข ทหารเรือที่ดูแลอยู่จะกันพื้นที่ไว้เป็นส่วน ๆ นับเป็นหาดที่มีการดูแลความปลอดภัยดีที่สุดหาดหนึ่งของเมืองไทยเลย
บรรยากาศภายในห้องผู้โดยสาร สนามบินอู่ตะเภา
ก่อนจะปิดทริปนี้ จะเล่าถึงสนามบินอู่ตะเภาสักนิด สนามบินแห่งนี้ถือว่ามีพื้นที่ใหญ่โตกว้างขวางมาก และมีการสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ คาดว่าจะเสร็จในเร็วนี้ ๆ ก็น่าจะคลายความคับแคบลงไปได้บ้าง ด้านการรักษาความปลอดภัย ต้องชมว่าเนี๊ยบมาก มีความเข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งเลย ท่านใดที่ทำงาน หรือมาเที่ยว หรือต้องเดินทางไปมาระหว่างหาดใหญ่ - ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ลองเลือกความคุ้มค่ากับใช้บริการกับแอร์แอเชียเส้นทางใหม่ หาดใหญ่ - อู่ตะเภาดูนะครับ
และนั้นคือความประทับใจในทริปแรกของการเยือนพัทยา ได้ตื่นตาตื่นใจราวกับว่าดินแดนแห่งนี้ ถูกเนรมิตมาเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวจริง ๆ แน่นอนที่สุดหากมาเป็นคู่รัก คงจะเติมความหวานให้ชีวิตคู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หรือจะชวนกันมาทั้งครวบครัวก็มีแหล่งพักผ่อนและเรียนรู้มากมาย พลาดไม่ได้จริงๆ
แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดของเมืองพัทยา
- ปราสาทสัจธรรม ชมสถาปัตยกรรมไม้อันสวยงามของช่างไม้ไทย เหมาะสำหรับคู่รักที่จะมาเก็บภาพได้ทุกซอกมุมของปราสาท
- เมืองจำลองพัทยา เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเก็บประสบการณ์ ชมแลนด์มาร์คขนาดย่อเด่น ๆ ทั่วโลก ที่นี่ที่เดียว
- อาร์ทอินพาราไดซ์พัทยา ชมพิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติอันตระการตา งานนี้ชิลล์ ๆ ไปกับคนรักหรือครอบครัวได้ทั้งนั้น
- ตลาดน้ำ 4 ภาค แว็บแรก!!! ที่นี่ดูเหมือนจะเหมาะแก่เกี่ยวแขนคนรักชมบรรยากาศตลาดน้ำ แต่ก็มีคุณค่าทางวัฒนธรรมทั้ง 4 ภาค ที่จะพาเด็ก ๆ หรือครอบครัวมาเรียนรู้ก็ได้
- สวนนงนุช สวนตกแต่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะมากับคนรักหรือมาเป็นครอบครัวก็ประทับใจไม่รู้ลืม
- เขาชีจรรย์ พาครอบครัวมานมัสการพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาสูง เสริมสิริมงคลให้ตัวเองและครอบครัว
- เมืองพัทยา เมืองใหญ่ริมหาดที่เจริญสุดในประเทศไทย ปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายชาติ
- สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค เด็ก ๆ ไม่ควรพลาดเลย สวนน้ำของการ์ตูนเน็ตเวิร์คหนึ่งเดียวในประเทศไทย