เปิดเส้นทางชีวิตเณรน้อยเจ้าปัญญา เด็กกำพร้าจากเมียนมาร์สู่นักเปรียญธรรม8 ในวัยเพียง 18ปี

เปิดเส้นทางชีวิตเณรน้อยเจ้าปัญญาวัดโคกเปี้ยว จ.สงขลา สอบได้เปรียญธรรม 8 ในวัยเพียง 18 ปี ทั้งๆที่ไม้ได้เข้าเรียนที่กรุงเทพฯ หรือสำนักดัง แต่ใช้วิธีศึกษาสร้างความรู้ ความเข้าใจ ด้วยตนเอง เผยเป็นเด็กกำพร้า และต้องร่อนเร่จากมัณฑะเลย์ เมียนมาร์ เข้าไทยตั้งแต่ 5 ขวบ ก่อนตั้งหลักเบนเข็มเส้นทางชีวิตศึกษาพระธรรม และอุทิศตัวเป็นอาจารย์สอนทั้งเณรและพระ หวังให้สำเร็จ และไม่มีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนกับตนเอง

วันที่ 10 มี.ค. 61 หลังจากที่มีการประกาศผลการสอบประโยคบาลีสนามหลวง ระดับชั้นเปรียญธรรม (ป.ธ.) 7-9 ประโยค ซึ่งถือว่า เป็นการศึกษาระดับสูงสุดของคณะสงฆ์ และผลสอบบาลีศึกษา (บ.ศ.) ซึ่งเป็นการศึกษาบาลีสำหรับฆราวาสผ่านพ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา นั้น ปรากฏว่า มีเรื่องที่สร้างความน่าฮือฮาขึ้น เมื่อมี สามเณรโดนี่ จันทร์ดี อายุ 18 ปี จากวัดโคกเปี้ยว ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งถือเป็นวัดในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสอบได้ ป.ธ.8 โดยการศึกษาด้วยตนเอง และไม่ได้เข้ามาเรียนในส่วนกลาง หรือ สำนักดัง และ พระพรหมโมลี(สุชาติ ธมฺมรตโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะแม่กองบาลีสนามหลวง ยังต้องเอ่ยปากชมนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดโคกเปี้ยว เละสอบถามเรื่องราวต่างๆจาก สามเณรโดนี่ จันทร์ดี ซึ่งได้เล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้ฟัง โดยระบุว่า ตนเป็นเด็กกำพร้า แต่ในวัยเด็กจำความได้ว่า อยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ โดยอาศัยอยู่รวมกันหลายคนในพื้นที่ชนบท แล้วพากันอพยพเดินทางทำงานรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย เมื่อปี 2547 หรือราวอายุ 5 ขวบ

ซึ่งตอนนั้นพูดภาษาไทยได้เพียงคำเดียว คือ อาบน้ำ และต้องพบเจอกับปัญหามรสุมชีวิตอีกครั้ง จนต้องตามพี่สาวมาอยู่ อ.เบตง จ.ยะลา แบบเด็กกำพร้า หรือเด็กเร่ร่อนคนหนึ่ง ต่อมาจึงได้ตัดสินใจบวชเรียนที่วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา และย้ายมาอยู่ที่วัดหาดใหญ่สิตาราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับเล่าเรียนจนสามารถสอบไล่ได้เปรียญธรรม 1-2 ในอายุเพียง 10 ขวบ พร้อมๆไปกับการศึกษาภาษาไทยไปด้วย กระทั่งสอบไล่ได้เปรียญธรรม 8 ในอายุ 18 ปี โดยในช่วงอายุ 12 กับ 14 ปี ได้ลาสิกขาไปพักหนึ่ง

สามเณรโดนี่บอกว่า เคล็ดลับในการสอบไล่เปรียญธรรม คือ การพยายามอ่านทำความเข้าใจทั้งภาษาไทยและบาลีควบคู่กันไป และสอบถามอาจารย์ทันทีในจุดที่ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะในช่วงก่อนการสอบเปรียญธรรม 8 นั้น ตนได้มีโอกาสเดินทางไปหาความรู้เพิ่มเติมจาก พ.อ.ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ ซึ่งสอบได้เปรียญธรรม 9 และเป็นนาคหลวงคนที่ 11 ของไทย ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งได้สั่งสอน และแนะนำ ให้ตนรู้จักการกะล่อน หรือ พลิกแพลงบาลี ที่มาจากความรู้ ความเข้าใจ ไม่ใช่แค่จำข้อสอบเก่าๆมาสอบ จนนำมาสู่ความสำเร็จ และมุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไป คือ เปรียญธรรม 9 ในต้นปีหน้า

นอกจากนี้ทุกวันนี้ สามเณรโดนี่ ยังต้องทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนทั้งพระและเณรที่วัดโคกเปี้ยวแห่งนี้ ซึ่งรุ่นปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 60 รูป โดยต้องสอนพระปริยัติธรรมทั้ง 2 แผนกธรรม หรือ นักธรรม ตรี โท เอก ที่ตนสำเร็จถึงขั้นนักธรรมเอกแล้ว และแผนกบาลี หรือ เปรียญ ที่สอนตั้งแต่ 1-7 พร้อมกับสร้างห้องสมุดเล็กๆ และจัดทำแบบเรียนขึ้นมาเอง และใช้เงินส่วนตัวที่ได้รับเป็นค่าสอนหนังสือ ค่าเสี่ยงภัย และเงินรางวัลจากการสอบ มาใช้ทำหนังสือ และแบบเรียนสอนพระเณรทั้งหมดด้วย ซึงทำมานาหลายปีแล้ว เพราะ อยากให้มีอนาคตที่ดี และไม่อยากให้ลำบากเหมือนกับตนเองในวัยเด็ก และหากจบเปรียญธรรม 9 ก็อยากที่จะศึกษาต่อเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

รวมทั้งช่วยเหลือวัดโคกเปี้ยว ให้เป็นสถานที่สอนพระปริยัติธรรมที่มั่นคง และมีชื่อเสียง ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังคงพยามยามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ทางวัดกำลังระดมทุนสร้างกฏิสงฆ์วัดโคกเปี้ยว ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ 4 ชั้น เพื่อใช้สำหรับเป็นที่พักให้กับสามเณรและพระที่เข้ามาศึกษาพระปริญัตติธรรม ซึ่งขณะยังคงต้องแยกย้ายกันอาศัยตามกุฏิที่ชำรุดทรุดโทรม และคับแคบ โดยผู้ใจบุญสามารถสอบถามได้ที่ พระครูโกศลอรรถกิจ เจ้าอาวาสวัดโคกเปี้ยว โทร. 082-832-7325 และสามาสมทบทุนได้ที่บัญชีวัดโคกเปี้ยว ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 381-0-00433-2 หรือสมทบทุนการศึกษาให้พระเณรได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเบตง ชื่อบัญชี สามเณร โดนี่ จันทร์ดี เลขที่บัญชี 912-0-21073-6