บังโต ซิลลี่ฟูล ควง บังตาล คู่หูนักจัดรายการ เข้าพบ และขอโทษจุฬาราชมนตรี
บังโต ซิลลี่ฟูล ควง บังตาล คู่หูนักจัดรายการ เข้าพบ และขอโทษจุฬาราชมนตรี หลังคะนองปากพูดลบหลู่ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า และรูปปั้นของชาวพุทธ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงหวั่นที่จะสร้างความแตกแยกระหว่างศาสนา
จากกรณี นายวีรชน ศรัทธายิ่ง หรือ “โต ซิลลี่ฟูล” อดีตนักร้องนำวง “ซิลลี่ฟูล” ได้จัดรายการ โต-ตาล และมีการพูดในเชิงพาดพิงดูหมิ่นพระพุทธศาสนา และพระพุทธเจ้าที่เป็นองค์พระศาสดา จนกลายเป็นกระแสร้อน และถูกโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะในโลกโซเชี่ยลที่ถึงกับออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำในครั้งนี้ที่ไม่เหมาะสม สร้างให้เกิดความแตกแยกในสังคม รวมทั้งทำให้เกิดกระแสแอนตี้ โต ซิลลี่ฟูล กันอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุดวันที่ 5 เม.ย. 61 ที่มัสยิดกลางประจำ จ.สงขลา ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โต ซิลลี่ฟูล และ นายนภศูล รามบุตร หรือ ตาล นักจัดรายการคู่กันอีกคน ได้เดินทางเข้าพบ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และ คณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา เพื่อขอโทษจุฬาราชมนตรี และพี่น้องชาวพุทธที่ได้ทำให้ไม่สบายใจในคำพูดในเชิงดูหมิ่น ดูแคลน ที่มีการเผยแพร่ออกไปทางรายการของ โต ซิลลี่ฟูล ก่อนหน้านี้
โดย โต ซิลลี่ฟูล กล่าวว่า ตนขอโทษ และรู้สึกเสียใจมาก ที่พูดไปกระทบกับความรู้สึกของชาวพุทธ โดยแท้จริงแล้วตนไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ตอบคำถาม และวิเคราะห์ข้อสงสัยต่างๆนาๆ ตามที่มีคนถามเข้ามาในรายการเพียงเท่านั้น ซึ่งหากใครที่ได้ติดตามรายการที่ตนจัดอยู่ ก็จะพบว่า ตนจะยกคำสอนของศาสนาพุทธ หรือแม้กระทั่งศาสนาคริสต์ ในแง่มุมที่ดีมาเผยแพร่อยู่เป็นประจำ และนำมาปรับใช้กับตัวเองเช่นเดียวกัน และก็อาจจะมากกว่า หรือดีกว่า คนบางคนที่นับถือศาสนานั้นๆ อยู่ด้วยซ้ำไป
โต ซิลลี่ฟูล บอกด้วยว่า ตนนั้นไม่มีการแบ่งแยกศาสนา หรือพยามยามที่จะสร้างความขัดแย้งของคนต่างศาสนิก ซึ่งต่อไปจะขอพูดถึงเฉพาะศาสนาที่ตนเองนับถือแต่เพียงเท่านั้น จะไม่ขอพูดถึงศาสนาอื่น และไม่พูดถึงความเชื่อของศาสนาอื่น เพื่อไม้ให้เกิดความเข้าใจผิด หรืออาจจะสร้างให้เกิดความขัดแย่งเหมือนกับในครั้งนี้อีก
ด้าน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวชื่นชม โต ซิลลี่ฟูล ที่ได้ช่วยเผยแพร่ศาสนาอิสลาม และหลักคำสอนต่างๆ ที่เป็นข้อควรรู้แก่ผู้คน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรไปวิพากษ์ศาสนาอื่น โดยที่ไม่ได้ศึกษา หรือ รู้จริง อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เพราะ จะนำไปสู่ความแตกแยกระหว่างศาสนา และคนในสังคม ประเทศชาติ แต่ก็ยังดีที่ทาง โต ซิลลี่ฟูล ได้เข้าพบ และขอโทษ ต่อทุกคน พร้อมกับกำชับอย่าให้เหตุการณ์มนลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ขณะที่ ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีภาคใต้ ได้ฝากข้อคิดให้ด้วยว่า หลักคำสอนของศาสดาของศาสนาอิสลามนั้น สอนไม่ให้เบียดเบียนศาสนาอื่น พวกเราอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดองมาช้านาน และแต่ละศาสนาก็มีหลักคำสอน ความเชื่อ และรูปแบของการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้สอนบทเรียนให้กับผู้ที่คิดจะเผยแพร่ศาสนาว่า ควรจะต้องทำเช่นใดที่จะไม่ส่งผลกระทบ หรือสร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นในสังคม