ฝึกสหกิจศึกษาต่างแดน: โอกาสดีๆ สำหรับนิสิตปี 4 มหาวิทยาลัยทักษิณ

ฝึกสหกิจศึกษาต่างแดน: โอกาสดีๆ สำหรับนิสิตปี 4 มหาวิทยาลัยทักษิณ

หากเพื่อนๆหรือน้องๆอยากท้าทายความสามารถของตนเอง ฉันแนะนำให้ไปฝึกสหกิจต่างประเทศค่ะ การฝึกงานสหกิจศึกษาในต่างประเทศไม่ได้ยากเกินไปค่ะ แม้ว่าเราจะไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ แต่แค่มีใจกล้า อย่ากลัวที่ภาษาอังกฤษเราไม่เก่ง เราสามารถมาเรียนรู้ ฝึกฝนได้ ทุกอย่างสามารถพัฒนาและมีทางออกเสมอ อย่าให้ภาษาหรืออะไรก็ตามมาขวางกั้นเราได้ค่ะ แม้การฝึกสหกิจฯในสถานประกอบการบางที่จะไม่ได้เงิน แต่เราจะได้ประสบการณ์ในต่างแดนที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร แนวคิดในการทำงาน การปรับตัวให้เข้ากับความหลากหลาย เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงานของเรา “อย่ากลัวในสิ่งที่เราไม่เคยทำ จงกลัวในความกลัวที่เราจะไม่ทำ” โอกาสอยู่ที่ตัวเราว่าพร้อมจะวิ่งไปหามัน พร้อมที่จะเรียนรู้และแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวคุณเอง มันจะทำให้เราสามารถยืนบนโลกใบนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง

และนี่คือประสบการณ์ของฉันในช่วง 4 เดือน ( ม.ค.- เม.ย.2561) ค่ะ

ฉันเป็นคนที่ชอบเดินทางและชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่เสมอ เลยสนใจที่จะอยากออกฝึกสหกิจในต่างประเทศ โดยฉันได้ปรึกษากับดร.ทวนธง ครุฑจ้อน ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำสาขาของหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิตและอาจารย์จบการศึกษาจากที่นี่ ทำให้ดิฉันได้เลือกฝึกสหกิจที่ Universiti Utara Malaysia ( UUM) รัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย

ฉันฝึกอยู่ในออฟฟิศของ COLGIS ( College of Law, Government & International Studies)

หน้าที่ส่วนใหญ่ในสำนักงานก็จะทำงานเอกสาร พิมพ์หนังสือ ส่งอีเมล ในช่วงสัปดาห์แรกที่ไปอยู่ฉันยังสื่อสารไม่ค่อยได้ แต่พอฟังรู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ที่นั่นสั่งงานก็จะอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแต่สำเนียงก็จะออกมลายูหน่อยๆซึ่งสำหรับฉันมันฟังยากนิดหน่อย แรกๆคำที่ฉันไม่รู้ความหมายก็ต้องเปิด Google translate ช่วยในการสื่อสารในออฟฟิศทุกคนเป็นคนมลายูทั้งหมด ปกติเค้าก็จะใช้ภาษามลายูในการสื่อสารกัน

เมื่อพูดกับฉันทุกคนก็ใช้ภาษาอังกฤษได้หมดแม้กระทั่งแม่บ้าน เวลาพักเที่ยงพี่ๆก็จะให้ฉันทำอาหารไทยให้ทาน เช่น ทำต้มยำ ส้มตำ แกงส้ม เป็นต้น ซึ่งทุกคนก็จะชื่นชอบและชมว่าอาหารไทยอร่อย เวลาพักเที่ยงฉันเลยชอบและสนุกกับการทำอาหารไทยให้คนมาเลย์ทานค่ะ

ในเรื่องการปรับตัวก็มีเรื่องเวลาที่เร็วกว่าไทยชั่วโมงหนึ่ง ดิฉันจะต้องเข้างาน 08.00 น. – 17.00 น. และที่นี่จะหยุดทุกวันศุกร์และเสาร์ ทำงานวันอาทิตย์-วันพฤหัส นอกจากเรื่องเวลาที่ปรับตัวแล้ว มีเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมการเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และความตรงเวลาของคนมาเลเซีย แค่ช่วงแรกๆที่มีไปสายบ้างเพราะยังไม่ชินกับการตื่นเช้า แต่หลังๆฉันก็ปรับตัวได้

ฉันได้รับงานใหม่ๆที่ท้าทายและไม่เคยทำเสมอ เช่น ออกแบบโปสเตอร์ เป็นพี่เลี้ยงไปดูแลเด็กแลกเปลี่ยน ออกงานโรงแรม รับลงทะเบียนเด็กสอบสัมภาษณ์ ร่วมงานและกิจกรรมทุกอย่างที่พี่ๆสั่ง ดิฉันไม่เคยปฏิเสธเลย แม้งานที่ได้รับจะไม่เคยทำมาก่อน ดิฉันมองว่างานใหม่คือสิ่งที่ท้าทายความสามารถเรา ได้เรียนรู้ แก้ไขอะไรใหม่ๆ ภาษาที่ดิฉันไม่ได้เก่งมาก เราก็เปิดใจและเรียนรู้จนสามารถสื่อสารได้และผู้อื่นเข้าใจเราได้ ทุกคนที่นี่พร้อมรับฟังเป็นกันเองมากและพยายามเข้าใจในทุกๆเรื่อง สนใจและให้ความสำคัญในการทำโปรเจ็คการสอนภาษาไทยของดิฉัน คอยช่วยเหลือทุกอย่างและพี่ๆในออฟฟิศก็เข้ามาเรียนภาษาไทยร่วมกับนักศึกษาใน UUM ด้วย ทำให้ดิฉันภาคภูมิเป็นอย่างยิ่ง ที่คนมาเลเซียได้ให้ความสนใจและเปิดรับเรียนรู้ แลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมไทย

เล่าเรื่อง: นางสาวอัจฉรา ชำนาญกิจ นิสิตหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต สาขาการปกครองท้องถิ่น ชั้นปีที่ 4