สรส.จัดกิจกรรมวันกรรมกรสากลและเดินขบวนแรงงานข้ามชาติ เรียกร้อง 5ข้อต่อรัฐบาล


1 พ.ค. 2561

สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้จัดกิจกรรม  วันกรรมกรสากลและเดินขบวนแรงงานข้ามชาติ       

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พ.ค.61 ที่ทำการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สาขาหาดใหญ่ บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่  อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา  สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สาขาหาดใหญ่ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ , มูลนิธิพัฒนาแรงงานและอาชีพ , Migrant Worker Rights Network (MWRN) , Southern Seafood industry Workers Group (SSWG) และเครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมกันจัดงาน วันกรรมกรสากล โดยมีกิจกรรมการอ่านแถลงการณ์ ของกลุ่ม และร่วมเดินขบวนของแรงงานข้ามชาติ ไปตามถนนสาย หลักของตัวเมืองหาดใหญ่ การมอบหนังสือผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดส่งให้นายกรัฐมนตรี

66 (1).jpg

โดนกิจกรรมดังกล่าว มีการจัดขึ้นหลายกลุ่ม หลายพื้นที่ จะมีการใช้ชื่อที่แตกต่างกัน คือ “วันแรงงานแห่งชาติ” ตามเงื่อนไขกฎเกณฑ์ของรัฐบาล และ“วันกรรมกรสากล”ที่กลุ่มคนงานพยายามยืนหยัดเชื่อมร้อยกับประวัติศาสตร์ทางสากล แต่ข้อเรียกร้อง ข้อเสนอต่อรัฐบาลและคณะทำงานวันกรรมกรสากล

[video-0]

โดยนาย วิรุฬห์ สะแกคุ้ม เลขาธิการ สรส.สาขาหาดใหญ่ และเป็นตัวแทนกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรม  ได้อ่านข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมดังนี้

1. ธรรมาภิบาลในการบริหารงาน

- รัฐต้องยกเลิกนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหรือการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐต้องยกเลิกการออกกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือ ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ... และ ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ... ที่จะนำไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจรถไฟ และ ล่าสุดกรณีรัฐบาลมีนโยบายในการจัดตั้งบริษัทโครงข่ายบรอดแบรนด์แห่งชาติ(NBN)ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัทโครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ต (NGDC)ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การกำกับ ดูแล ของ กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และจะถ่ายโอนทรัพย์สินของบริษัทแม่ไปยังบริษัทลูก และในอนาคตก็จะยกเลิก โดยให้เอกชนมาบริหารจัดการแทน

- รัฐต้องจัดสวัสดิการถ้วนหน้า เช่น ด้านสาธารณสุขด้านการศึกษา ให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฎิบัติ ที่มีคุณภาพและมีค่าใช้จ่าย

- รัฐต้องยุติการทุจริตและคอรับชั่นทุกรูปแบบ

- รัฐต้องมีมาตรการ ให้นายจ้างหยุดคุกคามและเคารพสิทธิแรงงานและสิทธิสตรี

- รัฐต้องหยุด นโยบายที่ว่าด้วยการลดสวัสดิการพนักงานรัฐวิสาหกิจ เอกชนและครอบครัว

- รัฐต้องให้มีศูนย์เด็ก 3-4 ปี ในชุมชนของแรงงานนอกระบบ อย่างสอดคล้องและเหมาะสม

- รัฐต้องมีมตราการในการควยคุมสินค้าอุปโภค บริโภค ในราคาที่เป็นธรรม

44.jpg

2. การรับรองและให้สัตยาบันทางสากล

- รัฐต้องให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) ฉบับที่87ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกันและอนุสัญญาฯฉบับที่98ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักการแห่งสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง เพื่อสร้างหลักประกันในสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง และอนุสัญาที่ 183 ว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา

3. การคุ้มครองสิทธิในระบบประกันสังคม

- รัฐต้องจัดให้เกิดการปฏิรูประบบประกันสังคม ประกันสุขภาพคนทำงานถ้วนหน้า โครงสร้างการบริหารงานเป็นอิสระโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยให้ผู้ประกันตน มาตรา 33,39,40 มีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางสังคม

- เพิ่มสิทธิผู้ประกันตน มตรา40 ให้เท่ากับ มาตรา33

- รัฐต้องจัดสิทธิประโยชน์ในกรณีสงเคราะห์บุตร ในแรงงานในระบบและนอกระบบ ถ้วนหน้า

- ขยายกรอบเวลา การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ในกองทุนเงินทดแทน จนสิ้นสุดการรักษา ตามคำวินิจฉัยของแพทย์

- เพิ่มสิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์ ของเงินเดือนสุดท้าย

- รัฐต้องบริหารจัดจัดการให้แรงงานข้ามเข้าถึงสิทธิในประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงสิทธิชราภาพในประกันสังคม อย่างเร่งด่วน

4. รัฐต้องจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงจากการลงทุนโดยให้นายจ้างและรัฐบาลสมทบเงินเข้ากองทุนเพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน เมื่อมีการเลิกจ้าง

5.รัฐต้องจัดสรรงบประมาณและเร่งรัดให้มีการพัฒนากลไกการเข้าถึงสิทธิ์  การบังคับใช้  พ.ร.บ.  ความปลอดภัย  อาชีวอานามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน  พ.ศ. 2554  อย่างจิงจัง  ภายใต้การมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วน  และรัฐต้องยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกรูปแบบ

โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีตัวแทนสมาชิกกลุ่มต่างๆกว่า ร้อยคนร่วมกิจกรรม

77 (1).jpg