สรส.จัดกิจกรรมวันกรรมกรสากลและเดินขบวนแรงงานข้ามชาติ เรียกร้อง 5ข้อต่อรัฐบาล
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้จัดกิจกรรม วันกรรมกรสากลและเดินขบวนแรงงานข้ามชาติ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พ.ค.61 ที่ทำการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สาขาหาดใหญ่ บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สาขาหาดใหญ่ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ , มูลนิธิพัฒนาแรงงานและอาชีพ , Migrant Worker Rights Network (MWRN) , Southern Seafood industry Workers Group (SSWG) และเครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมกันจัดงาน วันกรรมกรสากล โดยมีกิจกรรมการอ่านแถลงการณ์ ของกลุ่ม และร่วมเดินขบวนของแรงงานข้ามชาติ ไปตามถนนสาย หลักของตัวเมืองหาดใหญ่ การมอบหนังสือผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดส่งให้นายกรัฐมนตรี
โดนกิจกรรมดังกล่าว มีการจัดขึ้นหลายกลุ่ม หลายพื้นที่ จะมีการใช้ชื่อที่แตกต่างกัน คือ “วันแรงงานแห่งชาติ” ตามเงื่อนไขกฎเกณฑ์ของรัฐบาล และ“วันกรรมกรสากล”ที่กลุ่มคนงานพยายามยืนหยัดเชื่อมร้อยกับประวัติศาสตร์ทางสากล แต่ข้อเรียกร้อง ข้อเสนอต่อรัฐบาลและคณะทำงานวันกรรมกรสากล
[video-0]
โดยนาย วิรุฬห์ สะแกคุ้ม เลขาธิการ สรส.สาขาหาดใหญ่ และเป็นตัวแทนกลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้อ่านข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมดังนี้
1. ธรรมาภิบาลในการบริหารงาน
- รัฐต้องยกเลิกนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหรือการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐต้องยกเลิกการออกกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือ ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ... และ ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ... ที่จะนำไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจรถไฟ และ ล่าสุดกรณีรัฐบาลมีนโยบายในการจัดตั้งบริษัทโครงข่ายบรอดแบรนด์แห่งชาติ(NBN)ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัทโครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ต (NGDC)ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การกำกับ ดูแล ของ กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และจะถ่ายโอนทรัพย์สินของบริษัทแม่ไปยังบริษัทลูก และในอนาคตก็จะยกเลิก โดยให้เอกชนมาบริหารจัดการแทน
- รัฐต้องจัดสวัสดิการถ้วนหน้า เช่น ด้านสาธารณสุขด้านการศึกษา ให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฎิบัติ ที่มีคุณภาพและมีค่าใช้จ่าย
- รัฐต้องยุติการทุจริตและคอรับชั่นทุกรูปแบบ
- รัฐต้องมีมาตรการ ให้นายจ้างหยุดคุกคามและเคารพสิทธิแรงงานและสิทธิสตรี
- รัฐต้องหยุด นโยบายที่ว่าด้วยการลดสวัสดิการพนักงานรัฐวิสาหกิจ เอกชนและครอบครัว
- รัฐต้องให้มีศูนย์เด็ก 3-4 ปี ในชุมชนของแรงงานนอกระบบ อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
- รัฐต้องมีมตราการในการควยคุมสินค้าอุปโภค บริโภค ในราคาที่เป็นธรรม
2. การรับรองและให้สัตยาบันทางสากล
- รัฐต้องให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) ฉบับที่87ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกันและอนุสัญญาฯฉบับที่98ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักการแห่งสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง เพื่อสร้างหลักประกันในสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง และอนุสัญาที่ 183 ว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา
3. การคุ้มครองสิทธิในระบบประกันสังคม
- รัฐต้องจัดให้เกิดการปฏิรูประบบประกันสังคม ประกันสุขภาพคนทำงานถ้วนหน้า โครงสร้างการบริหารงานเป็นอิสระโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยให้ผู้ประกันตน มาตรา 33,39,40 มีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางสังคม
- เพิ่มสิทธิผู้ประกันตน มตรา40 ให้เท่ากับ มาตรา33
- รัฐต้องจัดสิทธิประโยชน์ในกรณีสงเคราะห์บุตร ในแรงงานในระบบและนอกระบบ ถ้วนหน้า
- ขยายกรอบเวลา การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ในกองทุนเงินทดแทน จนสิ้นสุดการรักษา ตามคำวินิจฉัยของแพทย์
- เพิ่มสิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์ ของเงินเดือนสุดท้าย
- รัฐต้องบริหารจัดจัดการให้แรงงานข้ามเข้าถึงสิทธิในประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงสิทธิชราภาพในประกันสังคม อย่างเร่งด่วน
4. รัฐต้องจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงจากการลงทุนโดยให้นายจ้างและรัฐบาลสมทบเงินเข้ากองทุนเพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน เมื่อมีการเลิกจ้าง
5.รัฐต้องจัดสรรงบประมาณและเร่งรัดให้มีการพัฒนากลไกการเข้าถึงสิทธิ์ การบังคับใช้ พ.ร.บ. ความปลอดภัย อาชีวอานามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 อย่างจิงจัง ภายใต้การมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วน และรัฐต้องยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกรูปแบบ
โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีตัวแทนสมาชิกกลุ่มต่างๆกว่า ร้อยคนร่วมกิจกรรม