พบวาฬนำร่องครีบสั้นยาวเกือบ 5 เมตรหนัก 500กก.ว่ายพลัดหลงเข้ามาในคลองนาทับ อ.จะนะ


31 พ.ค. 2561

พบวาฬนำร่องครีบสั้นยาวเกือบ 5 เมตร หนัก 500 กิโลกรัม ว่ายพลัดหลงเข้ามาในคลองนาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา มีอาการป่วยหนักเจ้าหน้าที่ระดมทีมสัตวแพทย์ช่วยเหลือ อาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากป่วย และเป็นครั้งแรกที่พบวาฬนำร่องเข้ามาเกยตื้น จ.สงขลา และวาฬชนิดนี้จะอาศัยอยู่แต่ในเขตน้ำทะเลลึกเท่านั้น

IMG_7791.jpg

วันที่ 30 พ.ค. 61 ที่ จ.สงขลา ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับแจ้งจากลูกเรือสินค้าบรรทุกอาหารสัตว์ว่า พบวาฬพลัดหลงเข้ามาบริเวณปากคลองนาทับ ซึ่งติดกับทะเลอ่าวไทย พื้นที่ หมู่ 2 ต.นาทับ อ.จะนะ ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา

หลังจากที่ลงไปตรวจสอบพบว่า เป็นวาฬนำร่องครีบสั้น ความยาวลำตัว 4.5 เมตร ความยาวรอบตัวบริเวณครีบข้าง 2.3  เมตร และไม่สามารถว่ายน้ำ หรือประคองตัวได้ เนื่องจากป่วย และอาการค่อนข้างน่าเป็นห่วง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องทำเปลช่วยพยุง เพื่อไม่ให้มันจมน้ำ สามารถหายใจได้ และต้องเฝ้าดูแอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

รวมทั้งต้องมีการประสานทีมสัตวแพทย์จาก 3 หน่วย ทั้งของ จ.สงขลา จ.ชุมพร และ จ.ภูเก็ต มาทำงานร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง และ ฝั่งอันดามัน มาช่วยกันดูแลวาฬตัวนี้ และพยายามช่วยกันเต็มที่ เพื่อให้มันมีชีวิตรอด

นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า จากการตรวจในเบื้องต้นพบว่า วาฬนำร่องครีบสั้นตัวนี้มีอายุประมาณ 15-16 ปี ซึ่งยังเป็นวาฬวัยรุ่น น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม แต่ยังไม่สามารถระบุเพศได้ เนื่องจากต้องทำการพลิกตัววาฬ ซึ่งยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้

นอกจากนี้พบความผิดปกติ โดยมีก้อนเนื้อที่ลำตัวด้านขวา ปาก และ หาง มีรอยถลอก แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุอาการป่วยได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องนำเลือดและเสมหะไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้จากสภาพโดยรวมคาดว่า น่าจะอดอาหารมาหลายวันแล้ว แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามป้อนปลา แต่ก็ยังกินอาหารได้น้อยอยู่ และยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ ซึ่งต้องดูแลรักษากันอยู่ในคลองนาทับไปก่อน

นายสันติ บอกว่า เป็นครั้งแรกที่พบวาฬนำร่องครีบสั้นว่ายเข้ามาเกยตื้นในพื้นที่ จ.สงขลา เนื่องจากปกติแล้ว วาฬชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในเขตทะเลลึก และห่างฝั่งไปไกลมาก และเคยพบมาเกยตื้นครั้งหนึ่งที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อนามาแล้ว

ส่วนสาเหตุที่วาฬตัวนี้ว่ายเข้ามาเกยตื้น เนื่องจากมีอาการป่วย ซึ่งธรรมชาติของวาฬเมื่อเจ็บป่วย ก็จะพยายามว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง และตัวนี้ได้ว่ายลึกเข้ามาทางปากร่องน้ำในคลองนาทับ ซึ่งเป็นเขตน้ำตื้น เพื่อไม่ให้จมน้ำ และให้สามารถโผล่ขึ้นมาหายใจได้ ส่วนโอกาสรอดของวาฬตัวนี้ยังคงมีอยู่ครึ่งต่อครึ่ง และทางทีมสัตวแพทย์ต้องคอยเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา โดยต้องผลัดเปลี่ยนกันลงไปในน้ำ เพื่อช่วยประคองตัววาฬ เพราะ ยังไม่สามารถประคองตัวเอง หรือว่ายน้ำได้

IMG_7786.jpgIMG_7803.jpgIMG_7805.jpg