ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนกรกฎาคม 2561
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนกรกฎาคม 2561
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ โดยเก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนภาคครัวเรือน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่า เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 56.60 เพศชาย ร้อยละ 43.40 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 32.30 และมีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 34.70
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนกรกฎาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว โดยมีปัจจัยบวกหลายส่วน ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว วันอาสาฬหบูชา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งติดต่อกัน 4 วันส่งผลให้การท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นช่วงกีฬาฟุตบอลโลก ประชาชนส่วนใหญ่จะซื้อโทรทัศน์รุ่นใหม่ ๆ เพื่อติดตามเชียร์ทีมชาติที่ตนเองชื่นชอบ
ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 35.30 และ 35.40 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 36.20 และ 43.20 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพคิดเป็นร้อยละ 27.50 รองลงมา คือ ราคาสินค้า และหนี้สินครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 23.20 และ12.40 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ค่าครองชีพ รองลงมา คือ ราคาสินค้า และหนี้สินครัวเรือน ตามลำดับ