ปาฐกฐาพิเศษ มองอดีต เพื่ออนาคตหาดใหญ่ โดยอาจารย์วิษณุ เครืองาม
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเวทีเสวนาหาดใหญ่ไม่ไร้ราก พร้อมร่วมปาฐกฐาพิเศษ "มองอดีต เพื่อนาคตหาดใหญ่" ในฐานะบุตรหลานชาวหาดใหญ่ ที่เติบโตในเส้นทางนักกฎหมาย และมีส่วนสำคัญทางการเมืองไทยมายาวนานหลายยุคหลายสมัย และเป็นบุคคลทีึ่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
มากกว่า 1ชั่วโมงในการบรรยายของอาจารย์วิษณุ มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายที่อยากให้ทุกท่านที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับหาดใหญ่ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเมืองนี้ ทีมงานได้รวบรวมคำบรรยายผ่านผ่านควีดีโอ ให้ได้ติดตามรับชมรับฟังกันอีกครั้ง พร้อมขอสรุปเรื่องราวที่ท่านได้ปาฐกฐาให้ได้อ่านกันด้วย แต่อยากให้เปิดฟังมากกว่าเพราะท่านบรรยายได้ดีมาก เข้าใจง่าย แถมยังมีมุกแถมมาตลอดการบรรยายด้วย
ประวัติศาสตร์เมืองเป็นเรื่องสำคัญอยากให้ทุกเมืองทำพงศาวดารของเมือง สร้างสตอรี่ของเมืองขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ และได้ศึกษากัน อย่างหาดใหญ่ ที่มาของชื่อ บทแรกบอกว่ามาจากหาดขนาดใหญ่ที่คลองอู่ตะเภา จนถูกเรียกว่าหาดใหญ่ แต่อีกบทบอกว่าเพราะที่นี่มีต้นมะหาดจำนวนมาก และมีต้นใหญ่ด้วยเลยเรียกว่าทุ่งหาดใหญ่ หรือมะหาดใหญ่ และกลายเป็นหาดใหญ่ จนถึงปัจจุบัน
วันนี้หาดใหญ่ ควรมีการปลูกต้นมะหาด เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองในสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักกับต้นมะหาด ที่มาของหาดใหญ่ วันนี้ต้นมะหาด มีเพียงที่มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ หากปลูกไว้เป็นสวนและสร้างสตอรี่ให้ได้อ่านกันก็ยิ่งดี
[video-0]
ชื่อหาดใหญ่ ถูกบันทึกชื่อในประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เพราะทุ่งหาดใหญ่ เป็นสถานที่ปราบกบฎไทรบุรีสำเร็จ แต่เชื่อว่าหาดใหญ่เป็นชุมชนมาก่อนหน้านี้ เพราะหาดใหญ่ อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองสงขลากับไทรบุรี ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายน์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา แม้ไม่มีข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับเมืองที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าหาดใหญ่ ก็เป็นเมืองเก่าแก่ที่สำคัญอีกแห่งของหัวเมืองทางใต้ในอดีต
หาดใหญ่มีความโดดเด่นมาตั้งแต่ครั้งอดีต หากให้แบ่งการพัฒนาสามารถแบ่งได้เป็น 7ยุค คือ 1.ยุคเทือกสวนไร่นา เป็นยุคแห่งการทำเกษตรแบบชาวบ้าน ที่นี่ชาวมาลายูมาปลูกยางพาราก่อนที่พระยารัษฎา จะนำไปปลูกที่เมืองตรังเสียอีก 2.ยุคค้าที่ดิน มีการจับจองที่ดินแปลงใหญ่มากมาย โดยมีตระกูลสำคัญที่จับจองและกว้านซื้อที่ดินอาทิ อรรถกระวีสุนทร ผู้บริจาคที่ดินสร้างม.อ. ,ขุนนิพัทธ์จีนนคร ต้นตระกูลจิระนคร ,พระเสน่หามนตรี อดีตนายอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการวางผังเมืองหาดใหญ่ และยังมีนายซีกิมหยง ,กลุ่มพิธานพาณิชย์ ,รวมถึงตระกูลอุวรรณโณ
3.ยุคคมนาคม เป็นยุคถนนหนทางเริ่มเจริญรุ่งเรืองในสมัยจอมพลป. มีถนนเพชรเกษมเกิดขึ้น มีชุมทางหาดใหญ่ มีทางน้ำคลองอู่ตะเภา รวมถึงสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งเดิมเราใช้สนามบินทหารที่สงขลา 4.ยุคการศึกษา มีม.อ.เป็นสถานศึกษาสำคัญและโรงเรียนหายแห่งก็เป็นแถวหน้าของประเทศ 5.ยุคการค้าเจริญรุ่งเรือง 6.ยุคสถานบันเทิงเฟื่องฟู และ 7.ยุคแห่งการรักษาพยาบาล
ซึ่งผ่านมาแล้ว 7 ยุค ยุคต่อไปหาดใหญ่จะไปทางไหน เมืองเราเป็นเทศบาลนคร ที่ในอดีตมีเพียงกรุงเทพ เชียงใหม่ และหาดใหญ่ เท่านั้นที่เจริญจนเป็นเทศบาลนครแต่วันนี้จุดขายของเมืองมีเหมือนกันหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาถึงหาดใหญ่ มาแล้วหาที่จอดรถยาก ความปลอดภัยไม่มี ขยะเกลี่ยนกลาด แล้วแบบนี้จะเอาอะไรมาเป็นจุดขายใหม่ให้เมืองหาดใหญ่ การสร้างสตอรี่ของเมืองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมาช่วยสร้างจุดขายให้เมือง
COST คือหลักที่อยากให้นำพัฒนาเมืองหาดใหญ่ ประกอบด้วย
C Culture วัฒนธรรม ต้องเอาวัฒนธรรมมาขาย ต้องส่งเสริมวัด ส่งเสริมเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรม ส่งเสริมตลาดน้ำคลองแห ถนนคนเดิน ถนนวัฒนธรรม แปลกใจทำไมหาดใหญ่ยังไม่มี
O Orderliness ความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน วันนี้เมืองหาดใหญ่มีสิ่งเหล่านี้พร้อมแล้วหรือยัง
S Safety ความปลอดภัย วันนี้เมืองหาดใหญ่มีความปลอดภัยเพียบพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วหรือยัง
T Taste รสชาติอาหาร อาหารอร่อยเป็นจุดขายของหาดใหญ่มายาวนาน แต่ยังขาดการรวบรวมข้อมูล ขาดศูนย์อาหารที่จะรวมของอร่อยของเมืองหาดใหญ่ ไว้บริการนักท่องเที่ยวเลย
อาจารย์วิษณุ ยังได้เน้นย้ำถึงการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของเมืองหาดใหญ่ ที่ควบคู่กับเมืองอื่นๆ ไม่ใช่ทำแบบโดเดียว กับเมืองสงขลา สตูล สะเดา เพราะการเชื่อมโยงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอยากฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันพัฒนาต่อยอดต่อไปด้วย