ปปช.ภาค9 แถลงการปราบทุจริตในรอบปี พร้อมเผยมีหลายคดีใหญ่ที่ต้องเร่งสะสาง


12 ก.ย. 2561

ปปช.ภาค9 ชี้แจงบทบาทปปช.ภายใต้กฎหมายใหม่ พร้อมแถลงผลการปราบปรามทุจริตประจำปีงบประมาณ 2561 ในพื้นที่ 7จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีเรื่องร้องเรียนกว่า 630 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีท้องถิ่นและกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมโชว์ผลงานการตรวจสอบกรณีทุจริตเงินทอนวัดที่สงขลา นำไปสู่การขยายขยายผลระดับประเทศในการกวาดล้างทุจริตในสำนักพุทธ

78.JPG

(12 ก.ย.61) ที่โรงแรมลีการเดนส์พลาซ่า นายสนั่น ทองจีน ผู้ช่วยเลขาธิการปปช.ภาค9 นำแถลงข่าวร่วมกับผู้บริหารปปช.ในพื้นที่ภาคใต้อนล่าง จัดสัมมนาให้ความรู้สื่อมวลชนเกี่ยวกับการต่อต้านทุจริตและแถลงผลการดำเนินของปปช.ภาค9 โดยมีนายศรชัย ชูวีเชียร ผู้อำนวยการ ปปปช.สงขลา นายมงคล วุฒินิมิต ผู้อำนวยการปปช.สตูล พร้อมแทนปปช.ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ร่วมงานแถลงข่าวและสัมมนาในครั้งนี้ 

ผู้ช่วยเลขาธิการปปช.ภาค9 กฎหมายปปช.ฉบับใหม่มีข้อห้ามชัดเจนในการห้ามเปิดเผยข้อมูลผู้กล่าวหาร้องเรียน และห้ามเปิดเผยข้อมูลผู้ถูกร้องเรียนจนกว่าจะมีการชี้มูลความผิด ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะจึงเป็นข้อมูลที่มีการชี้มูลความผิดแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณชนได้ พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนสามารถร้องเรียนหรือชี้เบาะแสการทุจริตของหน่วยงานต่างๆ ได้ เพราะข้อมูลของท่านจะถูกปกปิดเป็นความลับ และหากคดีมีการชี้มูลความผิดและนำไปสู่การตัดสินคดีและยึดทรัพย์ ผู้ร้องจะมีสิทธิ์ได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งการยึดทรัพย์ถึง 10% แต่ไม่เกิน 100ล้านบาท ของทรัพยืที่ทำการยึดเป็นของแผ่นดิน

บทบาทสำคัญของปปช.ยังมีในส่วนของการรับแจ้งบัญชีทรัพย์สินของนักการเมือง ซึ่งตามกฎหมายกำหนดมีตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่ง และหลังรับตำแหน่ง 1ปี ซึ่งมีมากกว่า 2,183บัญชี ซึ่งในปัจจุบันไม่มีการเลือกตั้งงานในส่วนนี้จึงมีน้อย ส่วนการปราบปรามทุจริต เป็นบทบาทสำคัญของปปช.มีเรื่องร้องเรียน 630เรื่อง ตรวจสอบแล้ว 502เรื่อง และดำเนินการแล้ว 133เรื่อง   

[video-0]

นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้อำนวยการ ปปปช.สงขลา เปิดเผยว่าในส่วนของจังหวัดสงขลา มีเรื่องร้องเรียน 165เรื่อง อยู่ในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน 126เรื่อง อยู่ในขั้นตอนไต่สวน 39เรื่อง โดยมีกรณีที่คณะกรรมการปปช.มีมติชีมูลความผิดแล้วจำนวน 10เรื่อง โดยมีที่น่าสนใจ คือ กรณีกล่าวหานนายกอบบต.ดีหลวง อ.สทิงพระ เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงระบบประปา ม.1-8 และกรณีการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังด้วยวิธีพิเศษโดยไม่มีเหตุอันควร กรณีกล่าวหานายศุภสันต์ หนูสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาทวี อ.นาทวี กรณีจัดซื้อรถตักหน้า-ขุดหลัง ที่มีการอื้อประโยชน์ให้ให้เอกชนรายหนึ่งเข้าเป็นคู่สัญญา 

กรณีกล่าวหานางพิมพ์มาส รังสรรค์สฤษดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย2 กับพวกรวม 8คน กรณีการจัดซื้อเครื่องวงโยธวาทิต  กรณีกล่าวหานายอุทัย สุวรรณมณี นายกอบต.ชิงโค อ.สิงหนคร เกี่ยวกับการดำเนินการปรับปรุงระบบประปาบาดาล ม.9 ม.10 กรณีกล่าวหานายสมยศ สักพันธ์ นายกอบต.วัดจอนทร์ อ.สทิงพระ และผอ.กองช่าง กรณีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษโดยไม่มีเหตุอันควร 7โครงการ 

และกรณีใหญ่สุดที่นำไปสู่การการกวาดล้างการทุจริตในสำนักงานพระพุทธศษสนาแห่งชาติ ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่สงขลา กรณีการกล่าวหานางสาวประนอม คงพิกุล เมื่ิอคั้งดำรงตำแหน่งรองผอ.สำนักพุทธฯ และนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผอ.สำนักพุทธฯสงขลา กับพวกรวม 7คน อนุมัติจัดสรรงบประมาณอุดหนุนแก่วัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรียกรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากวัดชลธาราวาส และวัดยูปาราม และวัดสุริยาราม ซึ่งกรณีดังกล่าวได้นำไปสู่การปูพรมตรวค้นการทุจริตภายในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่เป็นข่าวดังและมีการขยายผลการดำเนินคดีได้อีกหลายกรณีตามที่เป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ทางปปช.ยังเปิดเผยเพิ่มเติม ขณะนี้ยังมีหลายคดีที่น่าสนใจและมีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงหรือท้องถิ่นขนาดใหญ่ถูกร้องเรียนด้วย ซึ่งทางปปช.กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลและหากมีกรณีกล่าวหาก็คงจะได้นำข้อมูลให้นำเสนอสู่สาธารณชนกันแน่นอน อย่างไรก็ตามในส่วนของการทุจริตในปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มลดลง มีการร้องเรียนน้อยลง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีขึ้นสำหรับการทุจริตในประเทศไทย 

79.JPG