10คดีมีใครโดนบ้าง ปปช.สงขลา แถลงผลการปราบปราบทุจริตในรอบปี61


14 ก.ย. 2561

ตามที่ปปช.ภาค9 แถลงผลงานในรอบปี 2561 ส่วนของจังหวัดสงขลา นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้อำนวยการ ปปช.สงขลา เปิดเผยว่ามีเรื่องร้องเรียน 165 เรื่อง อยู่ในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน 126เรื่อง อยู่ในขั้นตอนไต่สวน 39 เรื่อง โดยมีกรณีที่คณะกรรมการปปช.มีมติชี้มูลความผิดแล้วจำนวน 10เรื่อง ซึ่งมีที่น่าสนใจ ดังนี้

80.JPG

- กรณีกล่าวหานายจำรัส คงหวัง นายกอบบต.ดีหลวง อ.สทิงพระ เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงระบบประปา ม.1-8 และกรณีการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังด้วยวิธีพิเศษโดยไม่มีเหตุอันควร ปปช.มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

- กรณีกล่าวหานายศุภสันต์ หนูสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาทวี อ.นาทวี กรณีจัดซื้อรถตักหน้า-ขุดหลัง ที่มีการอื้อประโยชน์ให้ให้เอกชนรายหนึ่งเข้าเป็นคู่สัญญา ปปช.มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่าการกระทำความผิดของนายศุภสันต์ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ตามพรบ.เทศบาล พ.ศ.2496 

ปปช.สงขลา ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงและความเห็นไปยังอัยการฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตภาค9 เพื่อดำเนินคดีอาญาตามฐานความผิด และได้แจ้งผลการพจารณาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และแจ้งกกต.เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

- กรณีกล่าวหานางพิมพ์มาส รังสรรค์สฤษดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย2 กับพวกรวม 8คน กรณีการจัดซื้อเครื่องวงโยธวาทิต 5 รายการของโรงเรียนเมื่อปีงบประมาณ 2554 ปปช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับผลประโยชน์ที่มีควรได้ รวมถึงชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 2 ราย ผิดไม่ร้ายแรง 4 ราย และไม่มีมูล 2 ราย   

- กรณีกล่าวหานายอุทัย สุวรรณมณี นายกอบต.ชิงโค อ.สิงหนคร เกี่ยวกับการดำเนินการปรับปรุงระบบประปาบาดาล ม.9 ม.10 ปปช.มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่าการกระทำความผิดของนายอุทัย มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ตามพรบ.อบต. พ.ศ.2537 และได้แจ้งผลการพจารณาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และแจ้งกกต.เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

[video-0]

- กรณีกล่าวหานายสมยศ สักพันธ์ นายกอบต.วัดจอนทร์ อ.สทิงพระ และพจน์ พิบูลย์ ผอ.กองช่าง กรณีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษโดยไม่มีเหตุอันควร 7 โครงการ ในปีงบประมาณ 2556  ปปช.มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่าการกระทำความผิดของนายสมยศ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ตามพรบ.อบต. พ.ศ.2537 และได้แจ้งผลการพจารณาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และแจ้งกกต.เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่วนผอ.กองช่าง ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อดำเนินการทางวินัยตามความผิด 

- และกรณีใหญ่สุดที่นำไปสู่การการกวาดล้างการทุจริตในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่สงขลา กรณีการกล่าวหานางสาวประนอม คงพิกุล เมื่ิอคั้งดำรงตำแหน่งรองผอ.สำนักพุทธฯ และนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผอ.สำนักพุทธฯสงขลา กับพวกรวม 7คน อนุมัติจัดสรรงบประมาณอุดหนุนแก่วัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรียกรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากวัดดังกล่าว

ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการโอนเงินเข้าบัญชีวัด 4 ล้านบาท และมีการเรียกรับคืนเป็นเงินสด 3.2 ล้านบาท โดยทางวัดร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายวางแผนจับกุมและได้ได้นำไปสู่การปูพรมตรวค้นการทุจริตภายในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่เป็นข่าวดังและมีการขยายผลการดำเนินคดีได้อีกหลายกรณีตามมา ซึ่งหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหามีนายพนม ศรศิลป์ อดีตผอ.สำนักพุทธฯ ด้วย 

ที่งนี้ การชี้มูลความผิดของปปช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนกรณีการทุจริตได้ที่สำนักงาน ปปช.ทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนป.ป.ช.1205