24 มี.ค. “วันวัณโรคสากล” สคร. 12 สงขลา ชวนรวมพลัง ยุติวัณโรค


22 มี.ค. 2559

วันที่ 24 มีนาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็นวันวัณโรคสากล ซึ่งในปี 2559 นี้รณรงค์ภายใต้แนวคิด “รวมพลัง ยุติวัณโรค ” (Unite to End TB) โดยมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อจะยุติการระบาดของวัณโรค และส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการรับรู้ ตื่นตัว ในการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันวัณโรค อันนำไปสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดคือ “เมืองไทยปลอดวัณโรค”

TB_newsbanner.jpg

ดร.นายแพทย์สุวิช  ธรรมปาโล  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลากล่าวว่า  หน่วยงานทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันดำเนินงานเพื่อให้การควบคุมป้องกันวัณโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล คือจะต้องเร่งรัดการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่และรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกรายให้หายขาด ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการสังเกตตนเองในเบื้องต้นได้ พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัณโรค  ลดการรังเกียจ  การตีตรา สำหรับประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี  แรงงานข้ามชาติ  ผู้ต้องขังในเรือนจำ  ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง บุคลากรในสถานบริการสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน และผู้ที่อาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยวัณโรค  จะต้องรีบตรวจหาวัณโรคให้เร็วที่สุดเมื่อพบอาการที่น่าสงสัย ซึ่งวัณโรคนั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากสามารถรู้ว่าป่วยเป็นวัณโรคได้เร็ว และรักษาได้เร็ว และยังช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย  

วัณโรคเป็นโรคติดต่อเรื้อรัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ส่วนมากในผู้ใหญ่มักพบเป็นที่ปอด ในเด็กอาจเป็นที่อวัยวะอื่นร่วมด้วย เช่น ต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มสมอง กระดูก เด็กมักจะได้รับเชื้อจากผู้ใหญ่ที่เป็นวัณโรคระยะแพร่เชื้อ โดยเชื้อจะออกมากับการไอ จาม ทำให้เชื้อกระจายในอากาศ และเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจเอาเชื้อเข้าไป ผู้ที่เสี่ยงจะป่วยเป็นวัณโรคคือผู้ที่อยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ติดเชื้อ เอชไอวี อาการของวัณโรคขึ้นกับอวัยวะที่เป็น ที่พบบ่อยคือวัณโรคปอด จะมีอาการไอเรื้อรัง ไอติดต่อกันเกินสองสัปดาห์ มีไข้ตอนบ่ายๆ เหงื่อออกตอนกลางคืน  น้ำหนักลด เหนื่อยง่าย คนที่เป็น นานๆ อาจไอมีเลือดปน วัณโรคที่อื่นๆ จะมีไข้เรื้อรัง และอาการอื่นตามอวัยวะที่เป็นโรค เช่น ที่สมองจะมีอาการปวดหัว อาเจียน ซึมลง ชัก ที่กระดูกสันหลังอาจทำให้ กระดูกสันหลังคด หรือแตกออกเป็นฝี หากเป็นที่ต่อมน้ำเหลือง จะมีต่อม น้ำเหลืองโต หรือแตกออกเป็นฝี

ดร.นายแพทย์สุวิช ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อสำคัญที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย เป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยกว่า 120,000 รายต่อปี และการตายกว่า 10,000 รายต่อปี ที่สำคัญยังก่อให้เกิดเป็นวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่คาดว่าอาจมีมากถึง 1,900 รายในประเทศไทย แต่ปัจจุบันการค้นหาและรักษาวัณโรคที่รายงานนั้นมีไม่ถึงร้อยละ 70 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักถึงปัญหานี้มาโดยตลอด จึงได้ดำเนินงานควบคุมวัณโรคโดยต้องอาศัยเครือข่ายการประสานความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง วัณโรครักษาให้หายขาดได้ หากกินยาครบตามเกณฑ์ที่กำหนด หากกินยาไม่ครบเสี่ยงที่จะเป็นวัณโรคดื้อยา รักษาไม่หาย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกับวัณโรคสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ข่าวโดย   พรรณภัทร ประทุมศรี
นักวิชาการเผยแพร่

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา