รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงสงขลา ย้ำพัฒนาทางหลวงชนบทสู่ความ มั่นคงและยั่งยืน


22 มี.ค. 2559

รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ จ.สงขลา ติดตามโครงการฯ พร้อมเน้นย้ำการพัฒนาทางหลวงชนบทสู่ความ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ตอบสนองการเดินทางขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ ความปลอดภัย เดินหน้าพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

DSC_8551R.jpg

วันนี้ (22 มี.ค.59) เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาเส้นทางในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ในพื้นที่สำนักงานทางหลวงที่ 12 (สงขลา) ภายใต้วิสัยทัศน์ประเทศไทย พ.ศ.2558 – 2563 ที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท มีภารกิจหลักในการพัฒนาและบำรุงรักษาโครงข่ายถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนของชุมชนกับทางหลวงแผ่นดินในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยมุ่งเน้นสนับสนุนการท่องเที่ยว การพัฒนาเมือง การพัฒนาชายแดนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งการพัฒนาทางหลวงท้องถิ่นในพื้นที่ตามหลัก 4 S คือ ความสะดวก (Service) , ปลอดภัย (Safe) , การเดินทางไม่หลง  (Sure) และสะอาดสวยงาม (Scenic) ให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น โดยนำหลักประชารัฐมาบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอาสาสมัครภาคประชาชนที่จะช่วยดูแลความเรียบร้อยของถนนแต่ละสาย หรือแต่ละโครงการของกรมทางหลวงชนบทให้มีการพัฒนาและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีอาสาสมัครที่คอยดูแล จำนวนกว่า 700 คน ทั้งนี้  การดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้การกับดูแลของสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) โดยมีโครงการในพื้นที่ รวม 212 สาย ระยะทางประมาณ 2,600 กิโลเมตร

สำหรับโครงการพัฒนาเส้นทางในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ในพื้นที่สำนักงานทางหลวงที่ 12 (สงขลา) ภายใต้วิสัยทัศน์ประเทศไทย พ.ศ.2558 – 2563 ที่ว่า “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ประกอบด้วย 3 แผนหลัก คือ แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบโลจิสติกส์ , แผนงานพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแผนงานบำรุงรักษาและอำนวยความปลอดภัย ซึ่งในวันนี้ (22 มี.ค.59) มีการลงพื้นที่โครงการถนนทางหลวงชนบท สข.4063 แยกทางหลวงหมายเลข 4113 – บ้านลาแล ในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดสงขลากับจังหวัดยะลา เป็นโครงข่ายทางหลวงชนบทระยะทางรวม 55 กิโลเมตร เชื่อมโยงระหว่างพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ผ่านอำเภอสะบ้าย้อย อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของด่านชายแดนบ้านประกอบ เพื่อเป็นเส้นทางขนส่งสินสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผลไม้และยางพาราจากพื้นที่ตอนในของจังหวัดยะลา (อ.กาบัง . บันนังสตาร์ , ยะหา) เส้นทางดังกล่าว สามารถลดระยะทางได้มากกว่า 40 กิโลเมตร โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงการพัฒนาเส้นทางระยะสุดท้าย 14.750 กิโลเมตร ซึ่งโครงการก่อสร้างกำลังเริ่มต้นและอยู่ในช่วงการกรุยทาง ถางป่า และเตรียมดำเนินการต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ ได้มีการนำยางพาราธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมของผิวจราจรตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย

นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมทางหลวงชนบทได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในการดำเนินโครงการรายจังหวัด ปีงบ 2559 พื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมจำนวน 75 โครงการ งบประมาณ 1,415 ล้านบาท เพื่อตอบสนองการเดินทางขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ ความ ปลอดภัย เดินหน้าพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ด้าน นายโชค นวลได้ศรี ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการของกรมทางหลวงชนบทโดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังเกิดเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยได้มีการลงพื้นที่ประสานความร่วมมือกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินโครงการ สู่การเข้าถึงประชาชนและคนในชุมชนเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาหลายโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จสามารถอำนวยความสะดวกสบาย และลดระยะเวลาในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ทำให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการเข้าถึงการศึกษา ด้านสาธารณสุข ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลและที่มา

สุธิดา พฤกษ์อุดม / ข่าว สวท.สงขลา 22 มี.ค.59

โปรดปราน บุญธรรม / ภาพ

DSC_8576R.jpgDSC_8591R.jpgDSC_8597R.jpg