สคร.12 สงขลา ชู นวัตกรรมโปรแกรม V-SAN ตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะด่านฯ เร็วขึ้น 3 เท่า


8 พ.ย. 2561

สคร.12 สงขลา ชู นวัตกรรมโปรแกรม V-SAN ตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะด่านฯ เร็วขึ้น 3 เท่า

VSAN.jpg

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) พัฒนานวัตกรรมโปรแกรมระบบข้อมูลพาหนะในการประยุกต์แบบแผนการผ่านเข้าประเทศด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ Vehicle Sanitary (V-SAN) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจยานพาหนะให้เร็วขึ้นกว่าในระบบปกติถึง 3 เท่า รองรับรถเข้าด่านมากกว่า 1.6 พันคันต่อวัน ล่าสุดสามารถคว้ารางวัลผลงานคุณภาพ ประจำปี พ.ศ. 2561  

ดร.นายแพทย์ สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สคร.12 สงขลา ได้พัฒนานวัตกรรม V-SAN ภายใต้ชื่อ“การพัฒนาระบบบันทึกการตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะ เพื่อเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อสำหรับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ” ขึ้นมาเพื่อช่วยในการปฏิบัติงาน โดยได้นำโปรแกรม V-SAN เข้ามาใช้นั้น ถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน สะดวกรวดเร็ว รองรับปริมาณของผู้เดินทางและพาหนะที่ผ่านเข้าประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ การจัดการข้อมูล รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกันผ่านระบบออนไลน์ โดยโปรแกรมดังกล่าวสามารถเข้าใช้งานได้ใน 2 รูปแบบ คือ ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และผ่านระบบสมาร์ทโฟน หรือ   แท็บเล็ต สามารถลดขั้นตอนในการกรอกแบบฟอร์มที่เป็นเอกสาร  

จากสถิติข้อมูลจำนวนยานพาหนะที่ผ่านด่านฯ 4 แห่ง ในระหว่าง วันที่ 1-30 มิถุนายน 2560 ได้แก่ ด่านพรมแดนบ้านประกอบ ด่านพรมแดนสะเดา ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ และด่านพรมแดนสุไหงโกลก รวมจำนวนพาหนะ 48,709 คัน หรือเฉลี่ยมียานพาหนะเข้าประเทศ 1,623 คันต่อวัน ซึ่งยานพาหนะจำนวนมากทำให้เกิดภาระงานที่มากขึ้น ประกอบกับมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านเพียง 2 คนต่อ 1 ด่าน ทำให้ ความครอบคลุมในการตรวจยานพาหนะทำได้น้อย อีกทั้งการสรุปรายงานต่างๆยังต้องประมวลผลด้วยมือ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้   

ดร.นายแพทย์ สุวิช กล่าวต่อไปว่า โปรแกรม V-SAN เกิดจากการพัฒนาระบบบันทึกการตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะ เพื่อเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โดยผลที่ได้จากการนำโปรแกรม V-SAN มาใช้งาน คือ 1. ระยะเวลาที่ลดลง จากเดิมใช้เวลาในการลงทะเบียนและตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะรวมประมาณ 20 นาทีต่อคัน เมื่อนำโปรแกรมดังกล่าวมาใช้ ทำให้ช่วยลดระยะเวลาการดำเนินงานลง เหลือเพียง 5-8 นาทีต่อคันเท่านั้น หรือเร็วขึ้นประมาณ 3 เท่า 2. ปริมาณยานพาหนะที่ได้รับการตรวจเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากข้อมูลของด่านพรมแดนบ้านประกอบ ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2558 มีจำนวนพาหนะที่ตรวจสุขาภิบาล 113 คัน เฉลี่ยอยู่ที่ 3.65 คันต่อวัน เมื่อนำโปรแกรมดังกล่าวมาใช้ พบว่า เมื่อวันที่ 1-31 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา มีจำนวนพาหนะที่ตรวจสุขาภิบาล 238 คัน ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 7.68 คันต่อวัน หรือสามารถตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะได้มากขึ้นถึง 2 เท่า และ 3. ประสิทธิภาพของการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยโปรแกรมสามารถบันทึกรูปภาพ บันทึกข้อความ และบ่งชี้สิ่งผิดปกติที่ตรวจพบบนยานพาหนะนั้นได้

นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนมีความพึงพอใจในการใช้บริการดังกล่าว เห็นได้จากผลการสำรวจในเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา จำนวน 131 ตัวอย่าง จากคะแนนเต็ม 5 พบว่าผู้รับบริการมีความพึงพอใจในภาพรวมเฉลี่ยที่ 4.77 ซึ่งอยู่ในระดับพอใจมากที่สุด และมีความพึงพอใจด้านต่างๆ อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ทั้งด้านบุคลากร ด้านเวลา ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และด้านขั้นตอน อยู่ที่ 4.84 / 4.72 / 4.62 / 4.59 ตามลำดับ ส่วนปัจจัยและองค์ประกอบสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ คือ การทบทวนกระบวนการทำงาน ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหานั้น จะทำให้สามารถแก้ไขได้ถูกจุดและตรงตามความต้องการได้

นวัตกรรมระบบ V-SAN ภายใต้ชื่อผลงาน “การพัฒนาระบบบันทึกการตรวจสุขาภิบาลยานพาหนะ เพื่อเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อสำหรับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ” โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐแห่งชาติ ระดับดี ประเภทพัฒนาการบริการ ถือว่าเป็น 1 ใน 9 รางวัล ที่กรมควบคุมโรคได้รับรางวัลจากสำนักงาน ก.พ.ร. ประจำปี พ.ศ. 2561 ซึ่งโครงการนี้เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนางานเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทาง นับเป็นรางวัลระดับประเทศ  และเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้ส่วนราชการ