พระองค์เจ้าโสมสวลี ทรงเป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระอนุสาวรีย์ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระอนุสาวรีย์ พลเอกสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์
(19 ธ.ค. 61) เวลา 17.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปยังลานพระอนุสาวรีย์ พลเอกสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ (เขาน้อย) ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ทรงเป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระอนุสาวรีย์ พลเอกสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ โดยมีนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางอัญญาณี เพ็งจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา หัวหน้าศาล ทหาร ตำรวจและข้าราชการเฝ้ารับเสด็จ
นายพลเอกมหาอำมาตย์เอก นายพลเสือป่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระเจ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ประสูติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ. ศ. 2425 พระองค์ทรงสำเร็จการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนแฮร์โรล์ ระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์การปกครองและประวัติศาสตร์ และปริญญาโท ด้านอักษรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เมื่อเสด็จกลับพระนคร เมื่อ พ.ศ. 2449 ทรงรับราชการในกระทรวงมหาดไทย
พระองค์เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาบ้านเมืองในภาคใต้ให้เจริญรุ่งเรือง จึงทรงได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเลื่อนพระอิสริยยศเป็นลำดับ จนกระทั่งพุทธศักราช 2453 ทรงได้รับตำแหน่งเป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งมีที่ตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ที่เมืองสงขลา มีพระราชอำนาจบังคับบัญชาสูงสุด ปกครองมณฑลปักษ์ใต้ 3 มณฑล คือ มณฑลสุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราชและปัตตานี ต่อมาได้เปลี่ยนการปกครองจากแบบเทศาภิบาลมาเป็นการรวมมณฑลขึ้นเป็นภาค พระองค์ได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็นอุปราชมณฑลภาคใต้ ดูแลงานราชการต่างพระเนตรพระกรรณของมณฑลปักษ์ใต้ 3 มณฑล จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2468 พระองค์สิ้นพระชนม์วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2475 สิริพระชนมายุ 50 พรรษาและทรงเป็นต้นราชสกุลยุคล
ในช่วงเวลาที่ประทับที่สงขลา ทรงใช้เมืองสงขลาเป็นศูนย์บัญชาการปกครองเมืองต่างๆที่อยู่ในเขตมณฑลปักษ์ใต้เป็นเวลาถึง 15 ปี พระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองที่ข้าราชการและราษฎรรักใคร่อย่างยิ่งทรงตั้งอยู่ในความสุจริตและอุทิศพระองค์เพื่อราชการบ้านเมือง จากพระปรีชาญาณพระวิริยะอุตสาหะ ที่ทรงประกอบพระกรณียกิจอย่างเสียสละเพื่อชาวปักษ์ใต้ในอดีตทั้งปวงอันเป็นผลพวงตกทอดมาเป็นความผาสุกและรุ่งเรืองของชาวจังหวัดสงขลาในปัจจุบัน
ประชา โชคผ่อง/ข่าว/ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา