ชาวสวนปาล์มสงขลาบุกศาลากลาง เรียกร้องแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ-ปุ๋ยแพง


18 ม.ค. 2566

เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในจังหวัดสงขลาเดือดร้อนหนัก รวมตัวบุกศาลากลางยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เหลือกิโลกรัมละ 3 บาท ขณะที่ราคาปุ๋ยปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงกระสอบละ 1,700 บาท


(17 ม.ค. 66) เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน นำโดยนายนครินทร์ บุญคง ในฐานะตัวแทนเครือข่ายชาวสวนปาล์มสงขลา พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านนายรุ่งโรจน์ และสูบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อเรียกร้องราคาผลปาล์มน้ำมันที่กำลังตกต่ำอย่างหนักในขณะนี้ ให้รัฐบาลสร้างราคาให้เป็นมาตรฐาน

. จากการสอบถามเบื้องต้น สาเหตุการออกมาชุมนุมในครั้งนี้ เนื่องจากราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 2-3 บาท ทำให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งที่ในระยะนี้ ผลผลิตปาล์มน้ำมันไม่ได้มีปริมาณมาก แต่ราคากลับตกต่ำลงไป ไม่สอดคล้องกับราคาปุ๋ยที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงกระสอบละ 1,700 บาท ซึ่งเป็นภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น

. ด้านนายนครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเจอวิกฤตราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ปัญหาที่พบ คือ ปาล์มน้ำมันจากราคาเดิม 12 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงเหลือ 3 บาทต่อกิโลกรัม และราคาปุ๋ยจากราคาเดิม 830 บาทต่อกระสอบ ปรับราคาขึ้นเป็น 1,700 บาทต่อกระสอบ อีกทั้งลานปาล์มซื้อปาล์มดิบ ปิดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร ซึ่งได้ส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางเครือข่ายชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสงขลา จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์ถึงนายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก้ไขปัญหา พร้อมตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหามาตรการรองรับวันหยุดยาวของโรงงานผลิตและลานรับซื้อผลปาล์ม

. สำหรับการเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรมีข้อเสนอ 4 ข้อ คือ แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันให้มีราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตคือ ไม่ต่ำกว่า 5 บาท/กิโลกรัม, ลดราคาปัจจัยการผลิตเช่น ปุ๋ยเคมีราคา ไม่เกิน ๘๐๐บาท/กระสอบ ในระดับคุณภาพของปุ๋ยเคมีเท่าเดิม พร้อมทั้งให้สั่งการตรวจสอบการลักลอบ นำเข้าน้ำมันปาล์มปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการขนส่งผ่านเส้นทางด่านต่างๆ ภายใน 7วัน และให้นำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นไบโอดีเซล เพื่อลดปริมาณน้ำมันปาล์มส่วนเกิน

. ทั้งนี้ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา รับปากว่าจะนำข้อเรียกร้องทั้งหมดรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบอย่างเร่งด่วน เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทำให้กลุ่มเกษตรกรพอใจและแยกย้ายเดินทางกลับ แต่หากไม่มีความคืบหน้าหรือไม่ได้รับการช่วยเหลือภายใน 15 วัน ก็จะยกระดับการรวมตัวเพื่อประท้วงต่อไป

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว

ประชา - วรปรัชญ์ /ภาพ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา