มรภ.สงขลา จัดงานส่งเสริมความรักสามัคคีฯ ดึงตัวแทน 62 หมู่บ้าน ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ชุมชน


คณะมนุษยศาสตร์ฯ มรภ.สงขลา จัดโครงการส่งเสริมความรักสามัคคี ความมีระเบียบวินัย เข้าใจสิทธิหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ดึงผู้นำ 62 หมู่บ้าน พื้นที่ จ.สงขลา พัทลุง สตูล ร่วมจัดทำวิทัศน์ วางแนวทางสร้างชุมชนเข้มแข็ง

ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมความรักสามัคคี ความมีระเบียบวินัย เข้าใจสิทธิหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ซึ่งจัดโดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ มรภ.สงขลา เมื่อเร็วๆ นี้ว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้ ความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการสร้างความรักสามัคคี ความมีระเบียบวินัย เข้าใจสิทธิหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ภายใต้พื้นฐานของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่านการเรียนรู้จากสื่อการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านมโนราห์และการแสดงศิลปวัฒนธรรมมลายู รู้รักสามัคคีเป็นหน้าที่พลเมือง ตามพระราโชบาย ร.10 โดยมีตัวแทนผู้นำชุมชนจาก 62 หมู่บ้าน ในพื้นที่ จ.สงขลา พัทลุง และ สตูล เข้าร่วมโครงการประมาณ 500 คน พร้อมทั้งร่วมกันกำหนดทิศทางการสร้างความรักและสามัคคีด้วยการจัดทำวิสัยทัศน์ชุมชนข้อตกลงร่วมใจ อันจะเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง

ผศ.ดร.นิวัต กล่าวว่า มรภ.สงขลา เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ที่เปิดโอกาสให้คนในท้องถิ่นได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนในการสร้างความรักและสามัคคี ตลอดจนยกระดับคุณชีวิตให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ผ่านโครงการพัฒนาที่ได้น้อมนำพระบรมราโชบายและพระราชดำริมาเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนา มรภ.สงขลา พร้อมที่จะร่วมมือกับชุมชนและก้าวไปด้วยกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนให้สมดังปณิธานของเราที่ว่า “ปัญญาญาณของท้องถิ่น พลังแผ่นดินแห่งสยาม สนองพระราชปิตุคาม งดงามอย่างยั่งยืน”

ด้าน ผศ.นาถนเรศ อาคาสุวรรณ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระบรมราโชวาทตอนหนึ่งว่า “ประเทศไหนถ้าประชาชนพลเมือง มีความสามัคคีกลมเกลียวกันดี มีระเบียบวินัย ประเทศนั้นก็เจริญและอยู่ในฐานะดี จึงเห็นได้ว่าความสามัคคีกลมเกลียวกันระหว่างคนในชาติ และความเข้าใจรักษาระเบียบวินัยเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง ที่จะช่วยนำประเทศชาติสู่ความวัฒนาถาวร” ซึ่งพระบรมราโชวาทดังกล่าวเปรียบเสมือนยุทธศาสตร์และเป้าหมายหลักในการบริหารจัดการประเทศ ให้เห็นถึงความร่มเย็นและความผาสุกของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ดังนั้น รัฐบาลจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความสามัคคี เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง โดยได้กำหนดให้การสร้างความปรองดองความสมานฉันท์เป็นนโยบายเร่งด่วน โดยนำประเทศไทยสู่สังคมที่มีความปรองดองสมานฉันท์

ผศ.นาถนเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรภ.ขลา เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีความมุ่งหวังในการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในส่วนของบุคคลและแนวทางการจัดการท้องถิ่น จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกัน เกิดการมีส่วนร่วมนำไปสู่การสร้างความรักสามัคคี ความมีระเบียบวินัย เข้าใจสิทธิหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ภายใต้พื้นฐานของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเกิดความภาคภูมิใจร่วมกัน อันเป็นการสร้างความยั่งยืนของความรักและสามัคคีในชุมชน ซึ่งทางคณะฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดโครงการในครั้งนี้ จะช่วยสร้างจิตสำนึกของคนในชุมชนให้เกิดความหวงแหน เกิดความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เพื่อสร้างความมั่นคงยั่งยืนในสังคมต่อไปในอนาคต

ข่าวโดย/ ลัดดา เอ้งเถี้ยว (นักประชาสัมพันธ์ มรภ.สงขลา)

เนื้อหานี้ในภาษาอื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง/บทความที่น่าสนใจ

  • ม.อ. จับมือ สสว. เปิดเวที Soft Power ผลักดัน SME สู่เวทีโลก
    ม.อ. จับมือ สสว. เปิดเวที Soft Power ผลักดัน SME สู่เวทีโลก
  • ม.อ. เจ้าภาพประชุมเครือข่ายมหาวิทยาลัยเหนือ-ใต้ ครั้งที่ 2  สานต่อความร่วมมือทางวิชาการ สู่ความเป็นเลิศทางการศึกษา วิจัย และนานาชาติ
    ม.อ. เจ้าภาพประชุมเครือข่ายมหาวิทยาลัยเหนือ-ใต้ ครั้งที่ 2 สานต่อความร่วมมือทางวิชาการ สู่ความเป็นเลิศทางการศึกษา วิจัย และนานาชาติ
  • คณะบริหารธุรกิจ มทร.ศรีวิชัย ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ
    คณะบริหารธุรกิจ มทร.ศรีวิชัย ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ
  • ม.อ. จับมือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม  เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบและสารสกัดจากพืชสมุนไพร
    ม.อ. จับมือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพิ่มมูลค่าวัตถุดิบและสารสกัดจากพืชสมุนไพร
  • คณะวิทย์ ม.อ. จับมือ สมาคมเภสัชวิทยาแห่งประเทศไทย จัดประชุมวิชาการระดับชาติ   ชูแนวทางใหม่ “เภสัชวิทยาที่ยั่งยืน” สู้ภัยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
    คณะวิทย์ ม.อ. จับมือ สมาคมเภสัชวิทยาแห่งประเทศไทย จัดประชุมวิชาการระดับชาติ ชูแนวทางใหม่ “เภสัชวิทยาที่ยั่งยืน” สู้ภัยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
  • PSU Mathematics Competition 2025 คณะวิทย์ ม.อ. เตรียมเปิดเวทีแข่งขันทดสอบความสามารถคณิตศาสตร์ระดับประเทศ
    PSU Mathematics Competition 2025 คณะวิทย์ ม.อ. เตรียมเปิดเวทีแข่งขันทดสอบความสามารถคณิตศาสตร์ระดับประเทศ
  • “คุณค่าสงขลานครินทร์ ปี 2568”  ร่วมรำลึกถึงวันสถาปนา พร้อมเชิดชูผู้สร้างชื่อเสียงแก่มหาวิทยาลัย  ผ่านรูปแบบ Low Carbon Event
    “คุณค่าสงขลานครินทร์ ปี 2568” ร่วมรำลึกถึงวันสถาปนา พร้อมเชิดชูผู้สร้างชื่อเสียงแก่มหาวิทยาลัย ผ่านรูปแบบ Low Carbon Event
  • สโมสรนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มทร.ศรีวิชัย จับมือเครือข่ายศิษย์เก่า จัดโครงการ
    สโมสรนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มทร.ศรีวิชัย จับมือเครือข่ายศิษย์เก่า จัดโครงการ "จิตอาสาเพื่อน้อง หนึ่งมือช่วย หนึ่งใจให้"
  • ม.อ. ร่วมผลักดัน “สงขลา” ตัวแทนเมืองของประเทศไทย  สมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกด้านอาหาร (Gastronomy) ปี 2568
    ม.อ. ร่วมผลักดัน “สงขลา” ตัวแทนเมืองของประเทศไทย สมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกด้านอาหาร (Gastronomy) ปี 2568
  • สถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย จัดโครงการพัฒนาเมืองต้นแบบ ร่วมกับโรงเรียนเครือข่าย สร้างสรรค์สิ่งทอและแฟชั่นจากทุนวัฒนธรรม
    สถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ศรีวิชัย จัดโครงการพัฒนาเมืองต้นแบบ ร่วมกับโรงเรียนเครือข่าย สร้างสรรค์สิ่งทอและแฟชั่นจากทุนวัฒนธรรม
  • คณะวิทยาการจัดการ ม.อ. เจ้าภาพจัดแข่งขันเกมธุรกิจจำลองระดับชาติ  เวทีพัฒนาศักยภาพนักศึกษาสู่การเป็นผู้นำธุรกิจ
    คณะวิทยาการจัดการ ม.อ. เจ้าภาพจัดแข่งขันเกมธุรกิจจำลองระดับชาติ เวทีพัฒนาศักยภาพนักศึกษาสู่การเป็นผู้นำธุรกิจ