​ครุศาสตร์ฯ มทร.ศรีวิชัย พัฒนาเครื่องอัดถ่านไม้ไผ่ เพิ่มมูลค่าสินค้าให้เกษตรบ้านควนขี้แรด


24 ต.ค. 2562

การบริการวิชาการแก่สังคม เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย พึงให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ในรูปแบบต่างๆ ตามความถนัดและในด้านที่สถาบันมีความเชี่ยวชาญ โดยให้บริการทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หน่วยงานอิสระ หน่วยงานสาธารณะชุมชน และสังคมโดยกว้าง รูปแบบการให้บริการทางวิชาการมีความหลากหลาย เช่น การวิจัย การสร้างสิ่งประดิษฐ์ การให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน ซึ่งการให้บริการทางวิชาการนอกจากเป็นการทำประโยชน์ให้สังคมแล้ว มหาวิทยาลัย ยังได้รับประโยชน์ในด้านต่างๆ คือ เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของอาจารย์อันจะนำมาสู่การพัฒนาหลักสูตร มีการบูรณาการเพื่อใช้ประโยชน์ทางด้านการจัดการเรียนการสอน และการวิจัย พัฒนาตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งงานของนักศึกษาและเป็นการสร้างรายได้ของสถาบันจากการให้บริการทางวิชาการด้วย


ซึ่งชุมชนหมู่ที่ 6 บ้านควนขี้แรด ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีความต้องการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชุนจากถ่านไม้ไผ่ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากการทำน้ำส้มควันไม้และทางคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ได้เข้าไปสำรวจความต้องการของชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นเพียงเชื้อเพลิงซึ่งมีมูลค่าเพียงเล็กน้อยจึงนำกระบวนการและวิธีการในการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ของถ่านไม้ไผ่ที่มีคุณสมบัติที่ดีในการดูดซับกลิ่น แต่เนื่องจากถ่านไม้ไผ่มีลักษณะเป็นผงละเอียดซึ่งมีความสามารถในการดูดซับกลิ่นได้ดีกว่าถ่านไม้ไผ่ที่ผ่านกระบวนการอัดขึ้นรูปซึ่งจะเป็นการทำให้พื้นที่ในการดูดซับกลิ่นของถ่านไม้ไผ่ลดลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่น โดยทางชุมชนได้เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากถ่านไม้ไผ่ที่เป็นผงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการนำมาใช้ในการดูดซับกลิ่น โดยเน้นความเป็นอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ของชุมชนอีกด้วย นอกจากนี้ทางหลักสูตรสาขาเทคโนโลยีปิโตรเลียม สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ได้เห็นแนวทางในการนำนักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมกับชุมชนโดยทำการทดลองหาอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างปริมาณถ่านไม้ไผ่ผงกับแป้งมันที่เหมาะสมเพื่อที่จะสามารถขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่อัดขึ้นรูปเป็นรูปแรดเพื่อให้เป็นไปตามที่ความต้องการของชุมชนบ้านควนขี้แรด ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อไป

คณะผู้วิจัย (นายอติกานต์ สงพะโยม นายอารยะ สมมาตร และนางสาว ณัฐริกา สุวรรณรัตน์นักศึกษาหลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีปิโตรเลียม ชั้นปีที่ 3 ในความดูแลของ อาจารย์ณัฐวุฒิ สุภารัตน์ และอาจารย์จุฑามาศ จันโททัย) ได้เล็งเห็นประโยชน์จากการใช้ถ่านไม้ไผ่ และทำการศึกษาการทำถ่านไม้ไผ่อัดแท่ง เพื่อใช้ในการดูดซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของชุมชนพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ใช้ ภูมิปัญญาชาวบ้านในการนำไม้ไผ่จำนวนมากมาเผาให้เป็นถ่าน เพื่อนำน้ำส้มควันไม้มาใช้ในการเกษตร ซึ่งการนำผงถ่านไม้ไผ่จากการผลิตน้ำส้มควันไม้มาใช้ประโยชน์ในการดูดซับกลิ่นโดยลักษณะของ ถ่านไม้ไผ่จะอยู่ในรูปแบบผงซึ่งไม่เหมาะแก่การนำมาใช้ประโยชน์ ดังนั้นจะต้องนำมาขึ้นรูปก่อน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน (Energy Density) เพื่อเพิ่มสภาพการคงตัว และเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ โดยการอัดขึ้นรูปนั้นจะต้องหาอัตราส่วนระหว่างถ่านและแป้งมันสำปะหลัง ในการขึ้นรูปเพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์เกิดการแตกหักในขณะที่นำไปตากแดดเพื่อให้ความร้อน เมื่อหาอัตราส่วนที่ลงตัว ก็ต้องนำไปทดสอบการดูดกลิ่นในพื้นที่ที่จำกัดไว้ เพื่อทำการทดสอบหาประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นของถ่านไม้ไผ่อัดขึ้นรูปว่าดีหรือไม่

โดยการอัดสามารถทำได้หลายรูปแบบเช่น การอัดเป็นเม็ด การอัดเป็นแท่งเล็ก การอัดเป็นลูกบาศก์ การอัดเป็นแท่งฟืน ในอุตสาหกรรมนิยมใช้การอัดเกลียวหรืออัดสกรู การอัดแท่งด้วยเกลียวหรือสกรู สามารถอัดได้ 2 แบบคือ

การอัดแห้ง คือ วัสดุก่อนอัดจะต้องได้รับการบดละเอียดสม่ำเสมอในการบดกรณีที่เครื่องอัดมีแรงอัดสูงมากก็อาจไม่จำเป็นต้องบดก่อนเพราะเครื่องอัดจะทำหน้าที่บดและอัดในตัวความชื้นของวัสดุที่บดแล้วก่อนทำการอัดควรมีค่าอยู่ระหว่าง ประมาณ 7-12เปอร์เซ็นต์หากสูงกว่าหรือต่ำกว่าเกณฑ์อาจอัดไม่ได้ผลโดยใช้แรงอัดสูงตั้งแต่ 0.100 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร

การอัดเปียก คือ ความชื้นก่อนอัดขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุโดยทั่วไปจะมีความชื้นประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ จะอัดได้ดีที่สุดแต่หากต่ำกว่านี้อาจจะอัดไม่ได้หรืออัดได้ไม่ดีเท่าที่ควรแต่สำหรับการลดความชื้นไปจนถึง 50 เปอร์เซ็นต์สำหรับวัสดุบางชนิดก็ยังอัดได้ดีอยู่ การอัดเปียกใช้แรงอัดต่ำกว่าการอัดแบบอัดแห้งอย่างมาก การอัดอาศัยแรงและความเหนียวของวัสดุจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีระบบการให้ความร้อนหรือระบายความร้อน วัสดุก่อนอัดจำเป็นต้องสับหรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่ไม่ใช่ละเอียด เมื่อผ่านการอัดเป็นแท่งแล้วแท่งเชื้อเพลิงจะต้องนำไปตากแดดให้แห้งก่อนนำไปใช้ แท่งเชื้อเพลิงมีความหนาแน่นระหว่าง 600-800 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร

นายอติกานต์ สงพะโยม (หนึ่งในผู้วิจัย) กล่าวว่า ผมศึกษาอยู่หลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีปิโตรเลียม ซึ่งต้องเรียนเกี่ยวกับปิโตรเลียม และพลังงานทดแทน โดยการทำวิจัยในครั้งนี้ ผมได้นำความรู้จากห้องเรียนมาผนวกกับการทำงานจริง ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน ซึ่งผมและเพื่อน ๆ รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้เกิดมูลค่าเพิ่มเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในชุมชน และต่อยอดไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน