คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ. และ กฟผ. ร่วมลงนาม MOU พัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของภาคใต้


10 ส.ค. 2563

คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ. และ กฟผ. ร่วมลงนาม MOU พัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของภาคใต้ นำความร่วมมือทางวิชาการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้

(10 สิงหาคม 2563) ณ ห้องประชุมดงยาง 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิ ทยาเขตหาดใหญ่ ผศ.ดร. นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ. ) และ นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โดยตั้งเป้าหมายนำทฤษฎีออกไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อการพัฒนาภาคใต้พร้อมมุ่งเน้นส่งเสริมงานวิจัยเพื่อการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของภาคใต้ โดยใช้การวิจัยแก้ไขปัญหาและพัฒนางานโดยมีผศ. นพ. สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม รศ. ดร. ธนิต เฉลิมยานนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์พร้อมด้วย นายผล ขวัญนัย ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ (กฟผ.) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ


ผศ. ดร. นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กล่าวว่า“ ม.อ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้โดย MOU ฉบับนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ ม.อ. ได้ทำร่วมกับกฟผ. เพราะมหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานและสถาบันการศึกษาที่มียุทธศาสตร์มุ่งเน้นการทำวิจัยเชิงรุกและมีความพร้อมในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในการสร้างกลุ่มวิจัยเชิงบูรณาการเพื่อให้สอดคล้องและสามารถแก้ปัญหาของประเทศมุ่งเน้นการสนับสนุนทุนและบริหารจัดการงานวิจัยเชิงบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นโครงการที่ดีของการส่งเสริมและสนับสนุนกลยุทธ์ความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกที่อยู่ในระบบวิจัยที่ทำหน้าที่สนับสนุนทุนวิจัย บริหารงานวิจัยเพื่อร่วมขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมรวมถึงเป็นโอกาสอันดีของการสร้างแรงจูงใจให้นักวิจัยของ ม.อ. และกฟผ. ได้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกันและเพิ่มขีดความสามารถในการทำวิจัยของบุคลากร ซึ่งหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะได้นำผลงานวิจัยต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้งานให้ตรงกับความต้องการของชุมชนและสังคมในพื้นที่ภาคใต้สร้างความเข้มแข็งให้กับบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนางานวิจัยให้มีความเป็นเลิศในสาขาที่มีความพร้อมโดยเฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีศักยภาพของคณาจารย์ทีมนักวิจัยที่การถ่ายทอดความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นและสังคมจากการต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรม”

นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง (กฟผ.) เปิดเผยว่า“ ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการพัฒนางานด้านการวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าโดยมุ่งเน้นการพัฒนา และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่และเห็นว่าในพื้นที่ภาคใต้มีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ. ) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยหลักมีรากฐานในงานด้านวิศวกรรมมาเป็นเวลานานมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเป็นจำนวน มากเหมาะสมที่จะนำความรู้ความสามารถของบุคลากรมาทำการวิจัยในปัญหางานที่เกิดขึ้นในระบบการผลิตและระบบส่งของกฟผ. ในพื้นที่ภาคใต้เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานไฟฟ้ารวมไปถึงการพัฒนาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่มีให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุดเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ความมั่นคงในระบบไฟฟ้าสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรวมโดย ตั้งแต่ปี 2551 กฟผ. ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มอ. ไปแล้วรวม 16 โครงการเช่นการวิจัยและพัฒนาระบบประชุมสั่งการทางไกลด้วยมัลติมีเดียผ่านเว็บสำหรับสถานีไฟฟ้าแรงสูง โครงการบ้านปลาปะการังเทียมจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าพื้นที่นำร่องจ. ปัตตานีและจ. นราธิวาส โครงการศึกษาวิจัยการใช้ปะการังเทียมเพื่อบูรณะทรัพยากรชายฝั่งกรณีศึกษาชายฝั่งทะเลอ. เทพา ฯลฯ นอกจากทุนวิจัยแล้วกฟผ. ยังสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์การเรียนการสอนรวมไปถึงบุคลากรและเปิดให้อาจารย์และนักศึกษาสามารถทำวิจัยเข้าดูงานฝึกงานในโรงไฟฟ้าและสถานที่ต่างๆของกฟผ. เพื่อให้เกิดความรู้เชิงประจักษ์พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมทางวิชาการต่างๆของมอ. อีกด้วย

รศ. ดร. ธนิต เฉลิมยานนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์กล่าวเพิ่มเติมว่า“ ที่ผ่านมาคณะวิศวกรรมศาสตร์ดำเนินงานวิจัยร่วมกับกฟผ. พร้อมได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดกิจกรรมทางวิชาการและกิจกรรมที่สร้างประโยชน์กับสังคมท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่องมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนงานวิจัยหรือศึกษาวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดในระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าและระบบส่งกำลังไฟฟ้าของกฟผ. เป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศเช่นการพัฒนาระบบการเก็บเกี่ยวพลังงานไฟฟ้าจากสายส่งเพื่อใช้เป็นพลังงานให้แก่ระบบมอนิเตอร์สายส่งการพัฒนาระบบอัจฉริยะสำหรับมอนิเตอร์หม้อแปลงและสถานีไฟฟ้าแรงสูงเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าเป็นต้นโดยการลงนามความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้จึงเป็นความร่วมมือต่อเนื่องของการพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงานสร้างโอกาสทางการศึกษาในงานวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและนำความรู้ด้านวิศวกรรมไปสร้างประโยชน์ให้แก่ทั้ง 2 หน่วยงานรวมถึงชุมชนสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรวมสามารถพัฒนาบุคลากรในพื้นที่เสริมสร้างขีดความสามารถการบูรณาการด้านการวิจัยและพัฒนาเสริมสร้างองค์ความรู้แลกเปลี่ยนความรู้เพิ่มพูนความรู้ที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันเสริมสร้างให้ทั้งสองหน่วยงานเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ต่อไป”