​ภาคีเครือชายแดนภาคใต้ร่วมลงนาม MOU ขับเคลื่อนวาระ “จังหวัดชายแดนใต้ไร้ครรภ์วัยรุ่น”


10 พ.ค. 2566

ศอ.บต.–ม.อ. และ สสส. สานพลังภาคีเครือข่าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงนาม MOU ขับเคลื่อนวาระจังหวัดชายแดนใต้ไร้ครรภ์วัยรุ่นภายในปี 2570 หลังพบการตั้งครรภ์ซ้ำแซงระดับเขตและประเทศ มุ่งหนุนเสริมเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอ นำร่องแล้ว 19 พื้นที่

(9 พฤษภาคม 2566) ณ โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูรเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดการลงนาม พร้อมร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กำหนดวาระ “จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไร้ครรภ์วัยรุ่นภายในปี 2570” จัดโดย สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดใช้แดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 12 สงขลา จังหวัดยะลา ปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขต 12 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา

ทั้งนี้ ได้ดำเนินโครงการ “การพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการ ต้ังครรภ์ในวัยรุ่นภายใต้ความร่วมมือของกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ (พชอ.) และ ภาคีเครือข่ายสุขภาพ: กรณีจังหวัดชายแดนใต้” จำนวน 19 อำเภอ ระยะดำเนินงาน 20 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และสิ้นสุดวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พล.ร.ต. สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สถานการณ์ด้านเด็กและสตรีในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางสุขภาพ และความมั่นคงของมนุษย์ มีผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ปัญหาการตั้งครรภ์วัยรุ่น เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อตัวอยู่ภายใต้โครงสร้างทางสังคม จากปัญหาครัวเรือนยากจน ปัญหาการว่างงาน และการเข้าถึงการศึกษาที่จำเป็น ดังนั้น การกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจและระบบบริการทางสังคม จะนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของวัยรุ่นได้อย่างครบวงจร อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเพื่อให้ได้ผลที่มีประสิทธิภาพในจังหวัดชายแดนใต้นั้น ควรคำนึงถึงบริบทพื้นที่ ทุนทางสังคม ศาสนา วัฒนธรรมและมิติอื่น ๆ

รวมทั้ง สภาพความเป็นจริงในแบบแผนการใช้ชีวิตของวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ศอ.บต. ได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์เหล่านี้มาโดยตลอด และได้มีการสร้างความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์กรภาคประชาสังคม ในการขับเคลื่อนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ โดยเชื่อมประสานระหว่างรัฐกับประชาชน เช่น การส่งเสริมบทบาทสตรีแกนนำในระดับหมู่บ้าน เพื่อเป็นเครือข่ายในการดูแลเด็กและสตรีกลุ่มเปราะบาง และการเสริมพลังอำนาจในการตัดสินใจในกลไกที่มีในระดับพื้นที่ ได้แก่ สภาสันติสุขตำบล ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ยุติธรรมชุมชน เพื่อเป็น


เครือข่ายร่วมสร้างการดูแลปกป้องคุ้มครองเด็กและสตรี เป็นต้น และ วันนี้ ศอ.บต. มีความยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์วัยรุ่นในจังหวัดชายแดนใต้ ภายใต้พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์วัยรุ่น พ.ศ. 2559 และกฎกระทรวงตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งยุทธศาสตร์การดำเนินงานในระดับชาติ พ.ศ. 2560 -2569

ทางด้าน ผศ.ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายแผนและนโยบายสาธารณะ ม.อ. กล่าวว่า แม้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ อัตราการคลอดของแม่วัยรุ่นอาจดูไม่สูง แต่การตั้งครรภ์ซ้ำสูง ผลการสำรวจล่าสุด ในปี 2565 พบว่า การตั้งครรภ์ซ้ำในหญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี ใน จ.ยะลาอยู่ที่ 18.28% ปัตตานี 19.85% และนราธิวาส 20.71% ขณะที่ค่าเฉลี่ยระดับเขตอยู่ที่ 16.18% และระดับประเทศอยู่ที่ 14.29% สถาบันนโยบายสาธารณะ จึงร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย ดำเนินโครงการ “การพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ภายใต้ความร่วมมือของกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) และภาคีเครือข่ายสุขภาพ: กรณีจังหวัดชายแดนใต้” ในพื้นที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ 19 อำเภอ ระยะเวลาดำเนินงาน 19 เดือน (15 ต.ค. 2564 - 14 พ.ค. 2566) ทำให้เกิดมาตรการชุมชนและนโยบายสาธารณะทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์วัยรุ่นที่สอดคล้องกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของจังหวัดชายแดนใต้ อาทิ พัฒนาระบบการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเพศวิถีศึกษาและทักษะชีวิตของวัยรุ่น พัฒนาระบบบริการสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อวัยรุ่น

ขณะที่ ดร. ซอฟียะห์ นิมะ ผู้รับผิดชอบโครงการฯ อาจารย์สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กล่าวว่าสถานการณ์การตั้งครรภ์วัยรุ่นในประเทศไทย เริ่มมีแนวโน้มลดลงในทุกกลุ่มอายุ รวมทั้งการตั้งครรภ์ซ้ำ ในขณะเดียวกันในสามจังหวัดชายแดนใต้ พบว่า อัตราการตั้งครรภ์ซ้ำในหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูณณ์นั้น ยังคงมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยท้ังในระดับเขตและระดับประเทศ โดยผลการสำรวจล่าสุดพบว่า ในปี 2565 ร้อยละการตั้งครรภ์ซ้ำในหญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี ในจังหวัดยะลาอยู่ที่ร้อยละ 18.29 จังหวัดปัตตานีร้อยละ 19.85 และ จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 20.71 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยระดับเขตสุขภาพที่ 12 ร้อยละ 16.18 และระดับประเทศ ร้อยละ 14.29