คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา จับมือสถานีตำรวจภูธรฯ อบรมให้ความรู้ด้านอุบัติเหตุและวินัยจราจร


27 ก.พ. 2567

คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา จับมือสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา จัดอบรม “นักศึกษาไทย ใส่ใจจราจร” ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุจากการจราจรและการทำใบขับขี่ วินัยจราจรและการขับขี่อย่างถูกกฎหมาย หวังปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบ ร่วมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน


เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) จัดโครงการอบรม “นักศึกษาไทย ใส่ใจจราจร” ณ ห้อง 74-207 ชั้น 2 อาคาร 74 คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ประกอบด้วย ร้อยตำรวจเอก จตุพล แก้วแสงอ่อน เเละ ร้อยตำรวจเอก คฑายุทธ์ บุรินทรโกษฐ์ เป็นวิทยากรให้ความรู้บรรยายในหัวข้อเรื่อง “อุบัติเหตุจากการจราจรและการทำใบขับขี่” และ “วินัยจราจรและกฎหมายจราจรในชีวิตประจำวันและการขับขี่อย่างถูกกฎหมาย” ให้แก่นักศึกษาหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม (ต่อเนื่อง) ชั้นปีที่ 3 ภาคปกติ กลุ่ม 666714C ที่มี ผศ.อรสา แนมใส เป็นอาจารย์ผู้สอน โดยมี ผศ.คุลยา ศรีโยม รองคณบดีฝ่ายบริหารและจัดการองค์กร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มรภ.สงขลา ร่วมให้การต้อนรับ


สำหรับที่มาของการจัดโครงการดังกล่าว เนื่องจากทางคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเล็งเห็นว่าปัญหาจราจรและความปลอดภัยบนท้องถนน เป็นปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ต้องประสานการทำงานไปด้วยกัน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เผยแพร่ข่าวสาร สร้างความรู้ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกวินัยจราจร รวมทั้งการใช้ถนนอย่างปลอดภัย เนื่องจากสภาพการใช้รถใช้ถนนในปัจจุบันมีปัญหาเกิดขึ้นหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักศึกษา 


ทั้งนี้ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุสำคัญหลายประการ กล่าวคือ ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎจราจร ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบ ขาดมารยาทและวินัยในการขับขี่ ตลอดจนน้ำใจที่มีต่อกัน การใช้มาตรการทางกฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถลดอัตราความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ รวมทั้งการอบรมให้ความรู้ และปลูกฝังวินัยการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม