​กู้ไม่ผ่านเพราะ “แบล็คลิสต์” จริงหรือไม่? (บทความการเงิน)


24 ก.พ. 2563

กู้ไม่ผ่านเพราะ “แบล็คลิสต์” จริงหรือไม่? (บทความการเงิน) โดย ธนิก พรเทวบัญชา กุมภาพันธ์ 2563

ในปัจจุบันการใช้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง อาทิ บ้าน รถยนต์ เป็นต้น ถือเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของประชาชนทั่วไป โดยก่อนที่สถาบันการเงินต่างๆ จะอนุมัติสินเชื่อ ต้องมีขั้นตอนการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ ว่ามีความสามารถที่จะชำระคืนสินเชื่อให้กับสถาบันการเงินได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะพิจารณาจากข้อมูลส่วนตัว เช่น อาชีพ รายได้ ช่วงอายุ เป็นต้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาหลายรายต่างก็ได้รับเหตุผลว่ามีประวัติเครดิตบูโรไม่ดี จนเกิดเป็นความเข้าใจผิดว่าตนเองติด “แบล็คลิสต์” ของเครดิตบูโร

เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เป็นตัวกลางที่รวบรวมข้อมูลเครดิตของผู้ที่ใช้บริการสินเชื่อของสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร และไม่มีหน้าที่จัดทำ “แบล็คลิสต์” รายชื่อบุคคลเพื่อห้ามไม่ให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อแต่อย่างใด ทั้งนี้สถาบันการเงินจะส่งข้อมูลเครดิตของผู้ที่ใช้บริการสินเชื่อของตนเองให้เครดิตบูโรทุกเดือน ซึ่งข้อมูลเครดิตจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาระหนี้สินทั้งหมดของเจ้าของข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นจำนวนหนี้ทั้งหมด ลักษณะการผ่อนชำระหนี้สินในช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นต้น

ข้อมูลเครดิตบูโรจึงเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวินัยทางการเงินและความตั้งใจชำระหนี้ที่ผ่านมาของเจ้าของข้อมูล ถ้าประวัติของเจ้าของข้อมูลไม่ดี เช่น ชำระหนี้ไม่ตรงเวลา ค้างชำระหนี้ เป็นต้น จะสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าของข้อมูลอาจจะไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้ หรือไม่เต็มใจที่จะชำระหนี้ สถาบันการเงินก็อาจจะไม่อนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ขอ เพราะเห็นสัญญาณที่ไม่ดี หากคิดในแง่มุมของตัวเราเอง หากมีคนมาขอยืมเงิน โดยผู้ที่ขอยืมมีประวัติว่ายืมเงินจากเพื่อนคนอื่นแล้วไม่เคยชำระเงินคืนเลย ตัวเราเองจะให้กู้ยืมหรือไม่

อย่างไรก็ดี ข้อมูลเครดิตบูโรเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่สถาบันการเงินจะนำมาใช้พิจารณาว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้กู้ควบคู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น รายได้ อายุ อาชีพ เป็นต้น เพื่อประเมินลักษณะผู้กู้ว่าจะสามารถชำระเงินกู้ได้ตามเงื่อนไขหรือไม่ ดังนั้นสาเหตุแท้จริงที่ไม่ได้รับสินเชื่อ อาจเป็นผลมาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่อาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ปริมาณหนี้จำนวนมาก เป็นต้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลเครดิตบูโรเพียงอย่างเดียว

สำหรับผู้ที่มีประวัติเครดิตบูโรที่ไม่ดี ก็อย่าเพิ่งกังวลใจว่า ตนเองจะไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ หนทางแก้ไขประวัติเครดิตบูโรไม่ยาก เพียงแต่ต้องสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้กับตนเอง และแสดงความตั้งใจชำระหนี้ เช่น ชำระหนี้ตรงเวลา เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้ตามความสามารถ ไม่ก่อภาระหนี้เกินความสามารถของตนเอง เป็นต้น ในอนาคตเมื่อประวัติเครดิตบูโรดีขึ้น สถาบันการเงินก็อาจจะอนุมัติสินเชื่อให้ ส่วนผู้ที่ยังไม่ทราบว่าประวัติเครดิตบูโรของตนเองเป็นอย่างไร ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้


การสร้างข้อมูลเครดิตที่ดีให้กับตนเอง ถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากในอนาคตหากมีความจำเป็นต้องขอสินเชื่อ ก็จะมีคุณสมบัติที่ดีให้สถาบันการเงินพิจารณา เปรียบเสมือนเป็นการสร้างต้นทุนที่ดีให้กับตนเอง อีกทั้งยังถือเป็นการฝึกนิสัยให้ตนเองมีวินัยทางการเงินที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ควบคุมตนเองได้ดี ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ทั้งยังสามารถวางแผนทางการเงินและปฏิบัติตามแผนได้ดีอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล : https://www.ncb.co.th/