ไข้เลือดออก” ยังระบาดแรง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง “เด็ก-เด็กเล็ก” กรมการแพทย์แนะวิธีสร้างเกราะภูมิคุ้มกัน 4 ชั้น ป้องกัน


5 ก.ย. 2565


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เผยสภาพอากาศค่อนข้างร้อนชื้นของไทย จะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสเดงกี บวกกับมีฝนตกและมีความเสี่ยงสูงขึ้นทำให้เกิดแหล่งน้ำขังหลายพื้นที่ ทำให้ลูกน้ำยุงลายมีปริมาณมากเติบโตได้ดี โอกาสที่จะแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 10-14 ปี เป็นกลุ่มที่พบมาก กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเสียชีวิตสูงเมื่อป่วย คือ กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี

นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุ การป้องกันโรคไข้เลือดออกสามารถทำได้ 4 ขั้นตอน (เปรียบเสมือนสร้างเกราะภูมิคุ้มกัน)

เกราะคุ้มกันชั้นที่ 1 การป้องกันตัวเองและบุตรหลานไม่ให้ยุงกัด ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ (สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทายากันยุง ติดมุ้งลวด นอนในมุ้ง)

เกราะคุ้มกันชั้นที่ 2 ช่วยกันกำจัดทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย ปิดฝาอุปกรณ์เก็บกักน้ำ (โอ่ง ไม่ให้ยุงลายวางไข่)

เกราะคุ้มกันชั้นที่ 3 พบแพทย์เมื่อป่วยเป็นไข้ ควรติดตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

เกราะคุ้มกันเสริม แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 - ผู้ใหญ่อายุ 45 ปี ที่เคยป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้วเท่านั้น

ที่มา สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์