การเงินน่ารู้ตอน การนำเงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศเข้าออกต้องปฏิบัติอย่างไร


23 มี.ค. 2560

การนำเงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศเข้าออกต้องปฏิบัติอย่างไร

001.jpg

หลังจากมีการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ทำให้การค้าขาย การท่องเที่ยว และการลงทุนระหว่างชายแดนสามารถทำได้คล่องตัวมากขึ้น  และยังมีนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว นักลงทุน และกลุ่มแรงงานไม่น้อย ที่ยังนิยมนำเงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศติดตัวผ่านด่านชายแดนเป็นประจำ โดยที่อาจจะไม่ทราบว่า ปัจจุบันกระทรวงการคลังได้ออกประกาศเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม กฎเกณฑ์ใหม่หลายประการ ซึ่งมีเหตุผลและประเด็นสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ดังนี้

1.เหตุผลในการออกกฎกระทรวงและประกาศกระทรวงการคลัง

1.1 โดยที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์กรต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิกและมีพันธกรณีที่ต้องเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

1.2 เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายสากล

1.3 เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม โดยเพิ่มในเรื่องของ “ตราสารเปลี่ยนมือ” ไว้ในกฎหมายนี้  

2. ประเด็นสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม

ประเด็นสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการเพิ่มเติมไปจากเดิมในเรื่องของการนำเงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศ ที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ หรือตราสารเปลี่ยนมือ ออกไปนอกหรือนำเข้ามาในประเทศ ที่ต้องสำแดงหรือแสดงรายการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรในขณะที่ผ่านด่านศุลกากร (หากมีมูลค่าเกินวงเงินที่กำหนด) สรุปได้ ดังนี้

2.1 กำหนดให้มีการสำแดงเงินบาทที่นำเข้ามาในประเทศ หากเกินวงเงิน 450,000 บาท
เดิมกำหนดเฉพาะขานำออกไปนอกประเทศเท่านั้น

2.2 ลดวงเงินเงินตราต่างประเทศที่ต้องสำแดงจากวงเงินหรือเทียบเท่าจากที่กำหนดเดิม
เกิน 20,000 ดอลลาร์ สรอ. (ทั้งกรณีนำเข้าหรือนำออกนอกประเทศ) เหลือ 15,000 ดอลลาร์ สรอ.

2.3 กำหนดเพิ่มเติมให้สำแดงตราสารเปลี่ยนมือที่ส่งหรือนำออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศ เงินบาท วงเงินเกิน 450,000 บาท เงินตราต่างประเทศ วงเงินหรือเทียบเท่าเกิน  15,000 ดอลลาร์ สรอ.

2.4 กำหนดเพิ่มให้สำแดงกรณีการนำเงินบาท หรือเงินตราต่างประเทศ หรือตราสารเปลี่ยนมือฯ ตามที่กล่าวในข้อ 2.1 - ข้อ 2.3 ซึ่งมีมูลค่าไม่ถึงจำนวนที่ต้องสำแดงรายการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากร แต่เมื่อรวมกันแล้วมีมูลค่า หรือเทียบเท่าเกิน 450,000 บาท  

3. วันที่มีผลบังคับ

มีผลบังคับใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป 

001.jpg1213.jpg