กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงติดตามงานโครงการตามพระราชดำริ ร.ร.ตชด.บ้านชายควน ปาดังเบซาร์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามงานโครงการตามพระราชดำริของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านชายควน ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
(19 ก.พ. 63) เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานและความก้าวหน้าของโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านชายควน ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา ปัจจุบันเปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัย ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีครูตำรวจตระเวนชายแดน หรือครู ตชด. 8 นาย ผู้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียน 2 นาย วิทยากรสอนศาสนา 1 นาย และครูแก้ปัญหาสถานศึกษาขาดแคลนครูขั้นวิกฤติ 1 นาย มีนักเรียน 148 คน
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านชายควน ได้ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางวิชาการและทางจริยธรรม โดยผลการประเมินนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านเหตุผลและความสามารถด้านคำนวน มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา (NT) สูงกว่าระดับประเทศและผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา (O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าระดับประเทศ สำหรับในปีการศึกษาที่ผ่านมา นักเรียนที่จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สามารถเข้าไปศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาได้ทั้งหมด
ในการนี้ ทอดพระเนตรการเรียนการสอนและกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเรียนการสอน ชั้นอนุบาล 2-3 เรื่องรักการอ่าน สหกรณ์นักเรียน และโครงการฝึกอาชีพ พร้อมทอดพระเนตรโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งมีการปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ สำหรับนำไปประกอบอาหารกลางวัน โดยจำหน่ายผ่านระบบสหกรณ์โรงเรียนเพื่อให้นักเรียนได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ซึ่งโครงการประสบผลสำเร็จ ปัจจุบันได้ขยายความรู้สู่ชุมชน เช่น การปลูกพืชผักหมุนเวียนแบบปลอดสารพิษ การเลี้ยงไก่ดำ การทำปุ๋ยหมักชีวภาพการปลูกไม้ผลและการเลี้ยงปลาในบ่อซีเมนต์
ในส่วนของโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน สามารถผลิตเนื้อสัตว์และพืชผักต่างๆ ได้เพียงพอตลอดทั้งปี และมีการขยายผลไปสู่ครัวเรือน โดยการให้นักเรียนนำกลับไปปลูกที่บ้าน แล้วนำผลผลิตที่ได้กลับมาประกอบเป็นอาหารกลางวันของโรงเรียน ส่วนที่เหลือสามารถนำไปขายหรือใช้ประกอบอาหารในครัวเรือนต่อไป
ด้านกิจกรรมการฝึกอาชีพ ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักงานอาชีพรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับช่วงวัย สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทำไม้กวาดดอกหญ้า แจกันไม้ไผ่ ร้อยลูกปัดและการทำขนมทองม้วน
โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์และหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปตรวจรักษานักเรียนและราษฎรในพื้นที่ พร้อมทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จอย่างทั่วถึง ซึ่งหมู่บ้านนี้มี 166 ครัวเรือน ประชากร 891 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน 9 หมื่นบาทต่อปี
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว
ประชา โชคผ่อง/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา