สร้างท่าเรือปากบารา ต้นแบบท่าปลอดบุหรี่ อบจ.สตูล เดินหน้าขยายสู่ทุกพื้นที่
หมอประกิต นำทีมมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ลงพื้นที่ท่าเรือปากบารา ชมผลงานนายกอบจ.สตูล สร้างต้นแบบท่าเรือปลอดบุหรี่แห่งแรกของประเทศไทย นายกสัมฤทธิ์ ชี้จุดเริ่มต้นเกิดจากการสร้างคนในองค์กรให้ปลอดบุหรี่-กวดขันให้สูบเฉพาะในโซนที่กำหนด พร้อมขยายโครงการไปยังทุกพื้นที่สาธารณะในความรับผิดชอบของอบจ.พร้อมดึงเทศบาล-อบต.มาร่วมขับเคลื่อนโครงการด้วย
(24 พ.ค.62) ณ ท่าเรือปาบารา อ.ละงู จ.สตูล องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ร่วมกับเครือข่ายศูนย์ข่าวปลอดควันจังหวัดสตูล มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเปิดตัวความสำเร็จโครงการสร้างท่าเรือปากบารา เป็นท่าเรือปลอดบุหรี่แห่งแรกของประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดจริงจังไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในทุกพื้นที่สาธารณะ ยกเว้นพื้นที่ที่จัดสรรไว้ให้เท่านั้น โดยมีนายศักดา วิทยาศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมกับนายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล, ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สื่อมวลชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสตูล และอีกหลายภาคส่วนร่วมกันตัดทำลายบุหรี่ขนาดยักษ์ในพิธีเปิดท่าเรือปลอดบุหรี่อย่างเป็นทางการ
นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กำหนดให้พื้นที่ปฏิบัติภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด โดยได้ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล และกลุ่มสื่ออันดามันจังหวัดสตูล จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือดำเนินการให้พื้นที่ปฏิบัติภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 แล้วนั้น โดยมีเงื่อนไขว่า อบจ.สตูล ต้องจัดพื้นที่ปฏิบัติภารกิจภายใต้การดูแลรับผิดชอบของ อบจ.สตูล เป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด เช่น สำนักงานอบจ.ฯ ท่าเทียบเรือปากบารา สนามกีฬา อบจ.สตูล ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศการท่องเที่ยว อบจ.สตูล ซึ่งได้ดำเนินการประสบความสำเร็จดียิ่ง เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ต้นแบบของจังหวัดและจะขยายไปยังองค์กรปกครองท้องถิ่นอื่นๆ ด้วย
"การสร้างองค์กรปลอดบุหรี่จำเป็นต้องมุ่งเน้นการให้ความรู้ สร้างความตระหนัก และรณรงค์เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่อย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในการดำเนินงานในส่วนของอบจ.สตูล จึงได้กำหนดจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคด้านสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2562 เน้นกิจกรรม อปท.ปลอดบุหรี่ เพื่ออบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับการจัดพื้นที่เขตปลอดบุหรี่ ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ทุกหน่วยงาน องค์กรในจังหวัดสตูล เป็นพื้นที่เขตปลอดบุหรี่ และเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว และประชาชนที่เข้ามารับบริการในสถานที่ หน่วยงาน องค์กรในจังหวัดสตูล"
ด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยข้อมูลการสำรวจเกี่ยวกับสถานการณ์การบริโภคยาสูบของคนไทย พ.ศ. 2560 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งวิเคราะห์โดยศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) พบว่า ปัจจุบันคนไทยสูบบุหรี่ 10.7 ล้านคน แต่ละปีคนไทยตายจากบุหรี่ 54,512 คน แต่ละคนตายเร็วขึ้น 18 ปี โดยเฉลี่ย ป่วยจนสูญเสียคุณภาพชีวิต 3 ปีก่อนตาย ในส่วนของภาคใต้มีผู้สูบบุหรี่ 1.93 ล้านคน อัตราการสูบร้อยละ 24.5 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศที่มีอัตราเท่ากับ 19.1%
นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล , ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสตูล อัตราการสูบบุหรี่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจากกระบี่ และนครศรีธรรมราช และมีอัตราการสูบบุหรี่ในบ้านสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศเช่นกัน การเจ็บป่วย และเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่จะยังคงเพิ่มขึ้น แม้อัตราการสูบบุหรี่จะลดลง โดยร้อยละ 90 ของคนไทยที่สูบบุหรี่อาศัยอยู่นอกเขตเมือง และร้อยละ 70 อาศัยอยู่ในเขตชนบท แต่ยังขาดหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเรื่องยาสูบอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีความเหลื่อมล้ำของปัญหาการสูบบุหรี่ระหว่างภูมิภาค ดังนั้น จึงขอแรงสนับสนุนจาก อปท.ทุกแห่ง ร่วมกันสร้างสถานที่ปลอดควันบุหรี่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ ศิลปบุตร คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการทำสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของการควบคุมยาสูบของไทย ปัจจุบันมีการสนับสนุน และผลักดันให้เกิดกฎหมายหลายฉบับ ที่สนับสนุนให้เกิดการสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่ แต่ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2560 สำรวจพบว่า ยังคงมีการพบเห็นการสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ หรือได้รับควันบุหรี่มือสอง มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ตลาดสดหรือตลาดนัด (ร้อยละ 61.81) 2. ร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือสถานที่จำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม (ร้อยละ 37.7) 3. สถานีขนส่ง (ร้อยละ 25.5) 4. ศาสนสถาน (ร้อยละ 23.1) 5. อาคารสถานที่ราชการ (ร้อยละ 11.4)
พร้อมกันนี้ทางภาคส่วนต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างชื่นชม อบจ.สตูล และภาคีเครือข่ายที่ผลักดันให้เกิดการประกาศท่าเทียบเรือปากบาราปลอดบุหรี่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ต้นแบบที่สะท้อนถึงการเชื่อมประสานการทำงานระหว่างภาคส่วนต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุนให้เกิดเขตปลอดบุหรี่ในที่สาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด ที่สำคัญยังเป็นการปกป้องสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่อีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การขยายผลให้เห็นเป็นรูปธรรมการทำงาน เพื่อการควบคุมยาสูบในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป