ที่ดินตาบอด 100 ไร่กลางเมืองหาดใหญ่ จะได้รับการพัฒนาจากการเสียสละ
หาดใหญ่ เมืองที่ได้ชื่อว่าที่ดินราสูงอันดับต้นๆ ของประเทศ เป็นรองแค่กรุงเทพแห่งเดียวเดียวเท่านั้น เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่มีพื้นที่ 21.5 ตร.กม.แทบไม่มีที่ว่างเปล่าเหลืออยู่แล้ว นอกเหนือจากที่หน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) หลายคนคงนึกไม่ออกแล้ว่าในเขตเทศบาลจะมีที่ดินเปล่าแปลงใหญ่ที่ไหนอีกบ้าง
พื้นที่วังผักบุ้ง หลังโรงเรียนกอบกาญจน์ศึกษามูลนิธิ คือที่ดินแปลงใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ พื้นที่กว่า 100 ไร่ จากถนนนิพัทธิ์สงเคราะห์5 ยาวไปจนถึงซอย10เพชรเกษม หลายคนเคยไปเก็บผักบุ้ง ไปหาปลากัด ไปต่อนก จนคิดว่าที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณะ หรือเป็นที่ของคนรวยๆ ที่เขาไม่เดือดร้อนอะไรเลยปล่อยให้ที่ดินรกร้างร้างอยู่แบบนี้ แต่ในความเป็นจริงที่ดินตรงนี้มีเจ้าของนับ 100ราย แต่กลับไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินของตัวเองได้ เพราะเป็นที่ดินตาบอด
เมื่อปี 2558 กรมโยธาธิการและผังเมือง มีโครงการจัดรูปที่ดินนำร่องจังหวัดละ 1 โครงการ จังหวัดสงขลา ได้คัดเลือกโครงการจัดรูปที่ดินกอบกาญจน์ มีการคัดเลือกที่ดินบริเวณกอบกาญจน์ ช่วงด้านหลังระหว่างถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 5 ถึงซอย 10 ถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นพื้นที่ตาบอด รกร้างว่างเปล่ามีเนื้อที่รวมประมาณ 100 ไร่ โดยเริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ต้นปี 2558 ภายใต้การทำงานร่วมกันของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา และเทศบาลนครหาดใหญ่
สำหรับโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณกอบกาญจน์ พื้นที่โครงการ 99 ไร่ 1 งาน 72 ตารางวา และทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าวเมื่อต้นปี 2562 เนื่องจากการดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการจัดรูปที่ดินของกรมฯ คือต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินทุกรายในแนวถนนโครงการผังเมืองรวมกว้าง 16.00 เมตร (ยังขาด 9 แปลง 6 ราย) ถึงแม้ว่าได้รวบรวมหนังสือให้ความยินยอมของเจ้าของที่ดิน 351 ราย หรือประมาณ 92.86 % ของจำนวนเจ้าของที่ดิน (ทั้งหมด 378 ราย) จำนวน 548 แปลง (ทั้งหมด 583 แปลง) และคิดเป็นเนื้อที่ 95.47 % ของเนื้อที่แล้วแต่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขกรมโยธาธิการและผังเมือง จึงยุติโครงการดังกล่าว
ถึงแม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ด้วยวิธีจัดรูปที่ดิน แต่เทศบาลนครหาดใหญ่ พิจารณาเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกทิ้งรกร้างมาเป็นเวลานาน ประกอบกับเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ต้องการให้ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ เข้าไปพัฒนาพื้นที่ ดังนั้นเทศบาลนครหาดใหญ่จึงมีความประสงค์ที่จะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเป็นการรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองในอนาคต โดยแนวทางในการพัฒนาพื้นที่บริเวณหลังกอบกาญจน์ ประกอบด้วยดังนี้
1. การก่อสร้างถนนนำร่องผิวหินคลุกภายในโครงการฯ เนื่องจากตามรูปแผนที่ระวางของบริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะปรากฎแนวถนนสาธารณประโยชน์ ดังนั้นในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวสามารถที่จะพัฒนาไปตามแนวถนนสาธารณประโยชน์ เพื่อให้เจ้าของที่ดินได้มีเส้นทางนำร่องเข้าไปพัฒนาพื้นที่ตนเองได้ แต่ปัจจุบันสภาพพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นหนองน้ำ การพัฒนาในช่วงแรกจึงเป็นการบุกเบิก โดยนำวัสดุเข้าไปถมพื้นที่ ฉะนั้นการก่อสร้างถนนนำร่องตามทางสาธารณประโยชน์ จึงออกแบบเป็นถนนผิวหินคลุก เพื่อรองรับการจราจรของรถบรรทุกที่จะเข้าไปถมพื้นที่
ในเบื้องต้น เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง สำนักการช่าง ได้วางแผนก่อสร้างถนนนำร่องออกเป็น 3 ระยะ โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้วางแผนที่จะดำเนินการในส่วนระยะที่ 1 ความยาวประมาณ 500 เมตร โดยทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ประสานสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาหาดใหญ่ เพื่อรังวัดสอบเขตทางสาธารณประโยชน์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสามารถกำหนดแนวที่ชัดเจนและจัดทำรูปแผนที่ ร.ว.๙ ได้แล้วบางส่วนทางด้านงบประมาณที่ทางส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง สำนักการช่าง ได้รับเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนนำร่องผิวหินคลุกภายในพื้นที่บริเวณกอบกาญจน์ ระยะที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2563 เป็นจำนวนเงิน 1,500,000 บาท หากดำเนินการรังวัดสอบเขตแล้วเสร็จ ก็จะดำเนินการออกแบบและจัดหาผู้รับจ้างเข้าไปดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ต่อไป
2. การแก้ไขปัญหาที่ดินตาบอด พื้นที่บริเวณกอบกาญจน์มีพื้นที่บางส่วนเป็นที่ดินตาบอดไม่ติดกับถนนสาธารณะ เจ้าของที่ดินตาบอดบางกลุ่มจึงรวมกลุ่มกันเพื่อตกลงกันซื้อที่ดินแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะเชื่อมต่อกับทางสาธารณประโยชน์ที่มีอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นข้อตกลงดำเนินการระหว่างเอกชน แต่เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเกิดรูปธรรมอย่างชัดเจน ทางกลุ่มเจ้าของที่ดินตาบอดบางกลุ่มได้ขอความอนุเคราะห์ให้ส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง สำนักการช่าง เป็นตัวกลางช่วยประสานและกำหนดหลักเกณฑ์ให้เจ้าของที่ดินในกลุ่มที่ดินตาบอดพิจารณาดำเนินการ
ปัจจุบันเจ้าของที่ดินตาบอดบางกลุ่มได้มีข้อสรุปในการจัดทำรายละเอียดกำหนดหลักเกณฑ์การรับผิดชอบ และได้สละเงินส่วนตัวสมทบเงินภายในกลุ่มเพื่อซื้อที่ดินและอุทิศเป็นทางสาธารณะ พร้อมทั้งแบ่งหักที่ดินบางส่วนของตนเองอุทิศที่ดินให้แก่เทศบาลฯ เพื่อการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว และเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ตาบอดบริเวณนั้นต่อไปในอนาคต นอกจากนั้นการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ยังเป็นเส้นทางเพื่อแบ่งเบาลดความแออัดทางการจราจรของถนนสายหลักและเป็นการรองรับการเติบโตของชุมชนในอนาคตอีกด้วย และสามารถเป็นกรณีศึกษาให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาที่ดินตาบอดเช่นเดียวกันกับกรณีนี้ได้ด้วย
จากการประสานงานของเทศบาล ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 จนก่อให้เกิดความร่วมมือจากเจ้าของที่ดินเกือบทุกแปลงในพื้นที่ดังกล่าว เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้มีการจัดสรรงบประมาณในการถมคันทางถนนภายในโครงการ โดยวางโครงการต่อเนื่อง 3 ปีในปี 2563-2565 เพื่อที่จะพัฒนาพื้นที่ตาบอดนับ 100 ไร่ให้เป็นชุมแห่งใหม่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้เจ้าของที่ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเต็มที่ต่อไป
ข้อมูล เทศบาลนครหาดใหญ่
ต้อม รัตภูมิ รายงาน Tel/Line 0897384215